เลอปลาแดก Le Pla Daak: อร่อยๆ style ลูกครึ่งอีสาน ฝรั่งเศษ

ร้านเลอปลาแดก ฟังชื่อครั้งแรกดูแปลก ไม่เหมือนใคร เปิดมานานเกิน 4 ปีแล้ว ตั้งใจว่าจะมาทานตั้งนานแล้ว ชื่อร้านมาจากคำผสม ระหว่างภาษาไทยและภาษาอีสาน คำว่า Le มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ผู้ชาย” ส่วนคำว่า “ปลาแดก” ( Pla Daak) เป็นภาษาอีสาน แปลว่า “ปลาร้า” ผสมแล้วแปลว่า "ปลาร้าตัวผู้" (http://lepladaak.com/home.html) ความคิดสุดยอดจริงๆ คิดได้งัยเนี่ย







ร้านนี้ตกแต่งได้เก๋ไก๋มาก ประมาณว่ามีของโบราณย้อนยุค ประเภทหาดูได้ยากในปัจจุบัน ตรงบริเวณทางเข้าร้าน เค้าจะมีมุมขายขนมและของเล่น สำหรับให้ซื้อกลับได้ด้วย ยังไม่ได้แวะชมจริงจัง ไว้โอกาสหน้ามาอุดหนุนร้านนี้ใหม่ ค่อยมาสำรวจดูกัน สำหรับการเดินทางมาร้านนี้ อาจจะสับสนและงงเล็กน้อย สำหรับคนที่ไม่เคยมา เพราะหน้าร้าน ป้ายไม่ได้ทำใหญ่โตอะไร อาจขับเลยได้ง่ายๆ ถ้าขับมาจากเกษตรฯ มาทางถนนเกษตร-นวมินทร์ ให้เลี้ยวขวาที่ตอม่อ no. 194 แล้วเลี้ยวซ้ายที่ซอยแรกเลย ขับมาประมาณ 500 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ







มีมุมผสมเครื่องดื่มแบบโบราณ มีตู้น้ำอัดลมตั้งอยู่ เค้ามีเครื่องดื่มมากมาย รวมทั้ง cocktail mocktail ให้เลือกสั่งด้วย







ที่แปลกอีกอย่างคือ เค้าจะมีวิทยุเล็กๆ แบบโบราณตั้งไว้ให้แต่ละโต๊ะสำหรับเปิดฟังคลื่นที่ทางร้านจัดรายการเองอีกด้วย คลื่น 107.7 FM แต่ที่ร้านเองก็มีเปิดเพลงอยู่แล้วเลยไม่ได้ลองฟัง เพลงที่เปิดน่าจะแนวยุค 80's







ร้านนี้จัดโต๊ะได้น่าสนใจมาก เค้าจะทำเป็นโต๊ะกระจก แล้วจะมีพวกของสำหรับโชว์ จัดวางอยู่ ทั้งของเล่น การ์ตูนแบบที่เราไม่ค่อยเห็นกันในยุคปัจจุบัน



เมนูทำหน้าปกเป็นไม้ หน้าปกเป็น logo ร้าน ที่แปลกคือ ตรงหน้าแนะนำร้านอาหารเค้าทำเป็น 3 ภาษา คือภาษาไทย อังกฤษ และจีน เผื่อใครพาเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติมาทาน จะได้รู้ที่มาของร้าน รวมทั้งคำแนะนำในการสั่งอาหาร เดี๋ยวจะเผลอไปสั่งส้มตำระดับ Dr. เข้า (เผ็ดนรก)



กาแฟเย็น ที่ร้านนี้ไม่ได้คั่วกาแฟใหม่ น่าจะใช้เป็นกาแฟสำเร็จรูป Nescafe ชงผสมน้ำ



ออร์เดิรฟ ที่เป็น complimentary จากทางร้าน ซึ่งจะเสริฟทุกโต๊ะ ให้ลูกค้าทานเล่นระหว่างนั่งรออาหาร จานนี้เรียก ผัดหมี่บ้านนา เสริฟมาในจานสังกะสี สำหรับลูกค้าแต่ละคน ถ้าติดใจสามารถสั่งเพิ่มได้ (เสียเงิน) ผัดหมี่ร้านนี้ รสอร่อยทีเดียว



สำหรับเมนูส้มตำของร้านนี้ มีให้เลือกหลากหลายมาก แต่วันนี้มาทานกับคุณแม่ เลยสั่งแบบธรรมดาๆ ส้มตำไข่เค็ม ระดับอนุบาล (ใส่พริก 1 เม็ด) เสริฟพร้อมผักสลัด ซึ่งแปลกไม่เหมือนร้านอื่นที่จะเสริฟ ส้มตำคู่กับกะหล่ำปลีและถั่วฝักยาว



จากที่สังเกตร้านนี้เค้าจะทำอาหารพิถีพิถันมาก ประเภทที่ใส่ความตั้งใจลงไปด้วย กุ้งก็จะป่นมาอย่างดี ถั่วลิสงจะจัดมาด้านข้างจาน สำหรับคนที่ไม่ทานถั่วลิสง จะได้ทานได้ด้วย เสียอยู่นิดเดียว เส้นมะละกอยาวไปนิด ทำให้ทานยาก



จานถัดมา ปีกไก่ทอด เลอปลาแดก (ราคา 98 THB) จานนี้แนะนำเลยว่า It's must. ทอดปีกไก่ได้แห้งและกรอบด้านนอก เนื้อด้านในยังนุ่มอยู่ ทีเด็ดมีกระเทียมและใบมะกรูดทอดกรอบโรยมาด้านบน ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว รสแปลกแต่อร่อย





จานต่อมา หมูสะออน ซึ่งเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน เป็นสันในหมูหมัก คัดเลือกส่วนที่ไม่ติดมัน นำไปย่างจนสุก เสริฟคู่กับน้ำจิ้มข้าวคั่ว และ French Fries ทานคู่กับ ketchup



นอกจาก French Fries ก็ยังมีสลัด apples ชามเล็กมาคู่กันด้วย เข้ากันดีมากๆ กับหมูสะออน จานนี้เค้าคิดราคาตามน้ำหนัก



เมนูถัดมา สาวไส้อุดร ฟังชื่อก็น่ากลัวแล้ว จนเกือบไม่กล้าสั่ง ที่แท้ก็คือ ไส้กรอกอีสานนั่นเอง โดยเค้าจะเสริฟ พร้อมเครื่องเคียงหลายอย่างมากๆ มีทั้ง มะม่วงดิบ ขิงอ่อน พริกขี้หนู กระเทียมเจียว หอมเจียว หอมแดง มะนาวและถั่วลิสง ไส้กรอกอีสาน เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบทานมันๆ เพราะของร้านนี้เค้าย่างมาได้แห้งมากๆ สาวๆ สามารถทานได้อย่างสบายใจ



คราวนี้มาต่อด้วย เมนูน้ำๆ บ้าง ต้มแซบเกี๊ยวกุ้ง เราขอให้เค้าทำแบบไม่เผ็ด ซึ่งรสออกมากำลังดีเลย เกี๊ยวกุ้งตัวโตๆ เนื้อกุ้งเป็นกุ้ง ต้มมาในน้ำซุปแบบที่ใส่เครื่องยาจีนลงไปด้วย ทำให้หอมและรสอร่อยมากกว่าปกติ เข้มข้น กลมกล่อม ถ้ามาร้านนี้ ห้ามพลาดเลยเมนูนี้



ร้านนี้ ชามแบ่งเค้าจะให้มาเป็นชามและช้อนสังกะสี ก็ไม่ต้องแปลกใจ ในน้ำซุปเหมือนจะมี อะไรก็ไม่รู้ที่ฝานมาเป็นแผ่นบางๆ รสออกมันๆ อร่อยดี และมีเก๋ากี๊ใส่มาด้วย



จานสุดท้าย ที่ต้องห่อกลับ เพราะทานไม่ไหวแล้ว หลังจากทานน้ำซุปเข้าไป เป็นเมนูแนะนำอีกรายการ ทอดมันเวียงจันทร์ เป็นทอดมันหมูผสมเครื่องแกงแดง รสเข้มข้น อร่อยค่ะ ร้านนี้ที่ชอบคือเค้าทำอาหารออกมาได้ไม่เลี่ยนน้ำมัน เสริฟมาได้น่าสนใจเกือบทุกเมนูเลย



ของหวาน พุทราเชื่อม อีกหนึ่งรายการซึ่งเป็น complimentary dessert จากทางร้าน รสออกหวาน เสริฟมาบนน้ำแข็งใส เหมาะทานแก้ความเผ็ดร้อน

========================================

Restaurant Name: Le Pra Daak

Location: Kaset-Nawamin

Price: ~450-500 THB/Person

========================================