ร้านนี้เป็นอีกร้านโปรดของที่บ้านเรา เพราะอาหารจีนทำได้อร่อยหลายอย่างรวมถึงพวก dim sum ด้วย อีกอย่างไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ เพราะเค้าจะมีลานจอดรถให้หน้าร้านเลย หรือในกรณีที่หน้าร้านเต็มก็สามารถเลยไปจอดตรงลานที่อยู่เลยไป สามารถสอบถามจากคุณลุงโบกรถได้ค่ะ ส่วนใหญ่แล้วเราจะมาทานเป็นมื้อกลางวันเพื่อที่จะได้ทานพวก dim sum ได้ด้วย เมนู dim sum ก็จะมีให้เลือกหลากหลาย เช่นเดียวกับเมนูอาหารจีนอื่นๆ ร้านนี้เมนูเล่มจะใหญ่และหนักมากๆ ด้วย วันนี้เราก็จะเริ่มต้นกันด้วย dim sum กันก่อนโดยจะสั่งประเภทที่เป็นพวกไส้กุ้งทั้งหลาย
จานนี้ ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้ง คือว่ามันมีเต็มจานกว่านี้แต่ถ่ายรูปไม่ทัน :) แป้งบาง มีกุ้งอยู่ข้างในหลายตัวที่เดียว เรียกว่ากัดไปคำไหนก็เจอแต่ตัวกุ้ง จานนี้อร่อยมากค่ะ
ต่อมา เผือกทอด ซึ่งทอดมาได้แบบไม่มีกลิ่นหืนของน้ำมัน กรอบนอกนุ่มใน เผือกฟูกรอบ มีร้านอีกร้านที่คงต้องพูดถึงซึ่งก็คือ silver palace แถวๆ สีลม ร้านนี้เคยเป็นร้านโปรดของที่บ้านแต่มีครั้งนึงที่ไปทานแล้วเสียความรู้สึกเพราะเผือกทอดเหม็นกลิ่นน้ำมันเก่ามาก เราก็เลยไม่ไปทานอีกเลย
ถัดมาเป็น ปอเปี๊ยะทอด ซึ่งไส้ปอเปี๊ยะเป็นหมูแดงและหน่อไม้ รสชาดใช้ได้ แต่เราชอบไส้ที่เป็นไส้กุ้งมากกว่า รู้สึกว่าที่ Shang Palace (Shangri-La Hotel) จะทำปอเปี๊ยะทอดได้อร่อยถูกใจกว่านี้ เช่นเดียวกับขนมผักกาดซึ่งเราไม่ได้สั่งของร้านนี้ เพราะเราชอบของที่ Shang Palace และ Hai Tien Lo (Pan Pacific Hotel) มากที่สุด
จานนี้ ฮะเก๋า รสอร่อย แป้งบาง กุ้งสดและหวานกรอบ ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่เกินไป เราชอบทานกับ mustard sauce และจิ๊กโฉ่วผสม hot chilli oil ซึ่งจำได้ว่าเราอยากทาน hot chilli oil กับ dim sum เวลาที่ไปฮ่องกงแต่ครั้งแรกเราก็ไม่รู้ว่าจะเรียกยังไง จนคนจีนโต๊ะข้างๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้เค้าช่วยบอกกับพนักงานเสริฟให้
ถัดมาเป็น ขนมกุ๋ยช่าย ซึ่งทอดออกมาได้ดี ส่วนตัวแล้วเราไม่ชอบทานไส้ที่เป็นกุ๋ยช่าย เพราะรู้สึกว่ามันมีกลิ่นแรง แต่คนที่เค้าชอบทานเค้าบอกว่า อร่อยมาก เพราะแป้งเหนียวนุ่ม ทอดมาแบบผิวกรอบนิดๆ ด้านนอก กำลังดีเลย
จานนี้คือ ขนมจีบกุ้ง ทำออกมาเป็นแบบแป้งบาง เห็นกุ้งเป็นตัวๆ เลย วัตถุดิบที่นี่ สดมากๆ กุ้งรสหวานเนื้อเด้งดึ๋ง อร่อยมากค่ะ
ก่อนที่จะไปเป็นอาหารจานๆ เราก็ยังสั่ง เกี้ยวกุ้งทอด ซึ่งดูน่าตาดีมากๆ แต่ไม่ได้ลองทานแต่ดูแล้วก็น่าจะอร่อยเพราะแป้งที่ทอดมาก็ดูไม่หนาเกินไป
จานนี้เป็นจานโปรดของพี่สาวเรา ผักกาดแก้วผัดซอสกระเทียม ซึ่งเราก็ชอบทานมากๆ เช่นกัน กลายเป็นผัดผักจานโปรดมากกว่าผักคะน้าฮ่องกงซะอีก ร้านนี้เค้าทำซอสกระเทียมได้อร่อยมากๆ เข้ากันได้ดีจริงๆ กับผักกาดแก้ว เป็นจานที่แนะนำว่าต้องสั่งให้ได้ค่ะ
จานนี้คือ แฮ่กึ๊นทอด ซึ่งร้านนี้ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน ส่วนตัวคิดว่าร้านนี้เค้าจะทำอาหารพวกอาหารทะเล กุ้ง ปู ปลา ออกมาได้อร่อย เพราะวัตถุดิบที่ใช้มีคุณภาพและสดมาก (เป็นๆ) เนื้อกุ้งหวานกรอบ เช่นเดียวกับของทอดที่เป็นไส้กุ้งอื่นๆ รสอร่อยและไม่อมน้ำมัน
จานถัดมา กุ้งอบวุ้นเส้น ซึ่งเราคิดว่าที่ร้านนี้ทำได้อร่อยมากที่สุดแล้วตั้งแต่ทานมาหลายๆ ที่ สูตรของร้านนี้จะเป็นแบบ original ที่จะใช้มันหมูบางๆ วางมาก้นหม้อพร้อมกับใส่กระเทียมกลีบเล็กจำนวนมาก ซึ่งกระเทียมกลีบใหญ่จะหอมสู้กลีบเล็กไม่ได้ นอกนั้นเค้าก็จะใส่เครื่องอื่นๆ เช่น ขิงและรากผักชี เป็นต้น วุ้นเส้นของที่นี้ปรุงออกมาได้แบบรสกำลังดี น้ำซอสเข้าเนื้อและเส้นเหนียวนุ่ม ข้อดีอีกอย่างของร้านนี้ คือพนักงานเสริฟเค้าจะถามก่อนว่าเราต้องการกุ้งจำนวนกี่ตัว เพราะลูกค้าบางคนนิยมกินวุ้นเส้นมากกว่ากินกุ้ง ก็จะได้สั่งมาปริมาณน้อยหน่อย สำหรับกุ้งที่นี่ เค้าจะใช้กุ้งแชบ๊วย ซึ่งจะเข้ากับวุ้นเส้นได้ดีกว่าชนิดอื่นๆ อีกอย่างน้ำจิ้ม seafood ของที่นี่เด็ดมากๆ ค่ะ ใส่ลงไปเล็กน้อยจะช่วยตัดความเลี่ยนได้ดีค่ะ
จานนี้น่าจะเป็น highlight ของมื้อนี้ ปลาเก๋าทอดราดซีอิ๊ว ซึ่งพนักงานเสริฟแนะนำให้สั่ง แรกสุดเราจะสั่งแบบนึ่งซีอิ้วธรรมดา แต่พนักงานเสริฟแนะนำว่าถ้านำปลาไปทอดก่อนแล้วค่อยราดน้ำซีอิ้ว มันจะอร่อยกว่าแบบนึ่งโดยเฉพาะถ้าใช้เนื้อปลาเก๋า
ซึ่งก็อร่อยจริงๆ เนื้อปลาข้างในยังนุ่มอยู่ น้ำซอสก็เข้ากันได้ดีมาก รสชาติอร่อย เนื้อปลาสดจริงๆ คาดว่าน่าจะใช้ปลาเป็นๆ มาทำ จานนี้ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่ก็คุ้มค่าเพราะปลาที่ใช้ตัวใหญ่มาก จานนี้ราคา 1,600 THB
โดยเราจะทานจานนี้คู่กับก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทอดกรอบราดกระเทียมเจียว ซึ่ง chef เค้าจะหั่นเส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นสี่เหลี่ยม ทำให้ตรงขอบมันยังกรอบอยู่แม้ว่าจะราดน้ำซีอิ๊วลงไปแล้ว ต้องขอชมว่าอร่อยสุดยอดค่ะ ปลาเก๋าทอดราดซีอิ๊วไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้กับเส้นใหญ่ทอด
ถัดมาเป็นข้าวผัดหนำเลี๊ยบ ซึ่งลองชิมไป 1 คำเพราะอิ่มมากแล้ว ข้าวผัดร้านนี้เค้าผัดเก่งจริงๆ ผัดได้แบบที่ไม่แฉะ เมล็ดข้าวยังสวยอยู่ กลิ่นหนำเลี๊ยบหอมๆ น่าจะเป็นที่ถูกใจสำหรับคนที่ชอบทานข้าวผัดแบบนี้ อร่อยดีค่ะ อย่าลืมทานกับเครื่องเคียงที่จัดมาคู่กันด้วยนะคะ
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่เราคงจะกลับมาทานอีกเรื่อยๆ เพราะเป็นร้านที่ฝีมือค่อนข้างคงที่ อีกอย่างวัตถุดิบที่ใช้ก็มีความสดและคุณภาพดี นอกจากนั้นยังมีเมนูอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้จานอื่น เช่น เป็ดปักกิ่ง เป็นต้นอาหารหลากหลายมีให้เราเลือกทานแบบที่ไม่เคยเบื่อเลยค่ะ
====================================
Restaurant Name: Lang Suan Shark Fin
Location: Lang Suan, Bangkok
Price: Average 600-800 THB/Person
====================================
No comments:
Post a Comment