เนื่องจากคนเยอะมากๆ เราเลยไม่ค่อยมีรูปถ่ายตัวเองซักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเน้นถ่ายบรรยากาศเมืองซะมากกว่า
ที่นี่มีร้านน้ำชาร้านนึงที่มีพวกกาสวยๆ แปลกๆ ให้เลือกซื้อได้ด้วย ไม่เคยเห็นที่อื่นเลย หรือจะนั่งทานชา ชมวิวแม่น้ำด้านหลังร้านก็ได้ ที่เมืองนี่มี Pub เยอะมากๆ ตอนกลางคืนที่เราออกมาเดินเล่น เสียงดังมากๆ จะเป็นคนละแบบกับ Wu Zhen ที่จะเงียบมากกว่า สำหรับอาหารระหว่าง 2 เมืองนี้ ส่วนตัวชอบอาหารที่เมือง Wu Zhen มากกว่า
สำหรับอาหารที่ขายข้างทานส่วนใหญ่จะเป็นพวกมันฝรั่งผัด เต้าหู้ทอดหรือจะเป็นพวกลูกชิ้นทอด รวมทั้งพวกขนมท้องถิ่นที่เราเห็นนักท่องเที่ยวอุดหนุนกันเยอะ จริงๆ ก็อยากลองแต่กลัวเรื่องความสะอาดอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเกิดไม่สบายตั้งแต่ต้นทริป คงเที่ยวไม่สนุกซักเท่าไหร่
สำหรับที่พักที่เราพัก เดินไม่ไกลมากจากสะพานทางเข้า แต่ถ้าเอากระเป๋าใหญ่มา เราต้องจ้างรถสามล้อถีบขับพาพวกเราพร้อมกระเป๋ามาส่งที่ที่พัก ซึ่งเราทึ่งมากๆ ในพลังถีบของคนขับสามล้อเพราะรถคันเล็กๆ สามารถพาพวกเราพร้อมกระเป๋าใบใหญ่นั่งมาบนรถสามล้อมาส่งถึงที่หมาย ตัวตึกที่นี่ดูเก่าๆ เข้ากับบรรยากาศเมือง ที่นี่มีห้องพักเพียง 5 ห้อง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ราคาของที่พักถือว่าไม่ถูกเลย อาจจะแพงกว่าโรงแรม 5 ดาวบางที่ด้วยซ้ำ ที่นี่เค้าคิดราคาคืนละเกือบ 6,000 บาท ห้องพักมี 2 ชั้น ห้องด้านล่างมีที่นั่งเล่นให้สามารถนั่งจิบชาได้ด้วย
ส่วนห้องนอนต้องเดินขึ้นชั้น 2 ไป ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ของที่ใช้ตกแต่งเหมือนจะมาจากประเทศไทยเป็นหลัก รู้สึกว่าเจ้าของที่นี่เค้าจะชื่นชอบประเทศไทยเป็นพิเศษ สังเกตุจากขนมที่ใช้เสริฟแขกก็ชื่อ Thailand Fried ของตกแต่งเน้นเป็นรูปช้างและพระพุทธรูปเป็นหลัก
มานอนที่นี่ ให้ความรู้สึกเหมือนกับย้อนเวลากลับไปสมัยก่อน ยกเว้นเสียแต่ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม รวมทั้งพวกทีวีที่มีช่อง HBO, CNN ด้วย Slipper เครื่องเป่าผม รวมทั้งห้องน้ำก็มี Rain Shower ให้ด้วย สำหรับ shampoo และ bath gel ของที่นี่ เค้าใช้ยี่ห้อ L'occitane ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับที่โรงแรม Intercontinenal
ตอนกลางคืนหลังจากกลับมาจากเดินเล่น เจ้าของแวะนำผลไม้มาให้ด้วย รวมทั้งตอน check out ก่อนกลับ เค้าก็ให้ของขวัญชิ้นเล็กๆ ที่เป็น wood carving จากไทย ทำให้เราค่อนข้างประทับใจกับบริการของที่นี่
==============================
No comments:
Post a Comment