Roadhouse Barbecue@Rama 4
ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงหัวมุมพอดีแถวสี่แยกอังรีดูนังต์ สามารถจอดรถได้ที่ตึกชาญอิสระ เหมาะสำหรับคนชอบอาหารแบบ american-mexican style ช่วงกลางวันมี lunch set ราคาถูกกว่าครึ่งของช่วง dinner ให้เลือกทานด้วย คุ้มกับราคามากๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณของอาหาร Ribs ร้านนี้อร่อย รสชาติดี ไม่เลี่ยนหวานเหมือนบางร้าน ส่วน Chicken Nachos ก็ให้เครื่องมาแบบล้นจาน แต่ชีสอาจจะน้อยไปนิดนึง ถ้าต้องการขอ Jalapenos เพิ่ม ทางร้านขอคิดเงินเพิ่ม 30 THB
วันนี้เราสั่งเป็น 3 course lunch set ซึ่งรวมขนมอยู่ใน set ด้วย เราเลือก Key Lime Pie ซึ่งแป้งพายของร้านนี้กรอบ อร่อยไม่เหมือนที่เคยทานที่ร้านอื่น เค้าทำออกมาได้ดีจริงๆ แถมรสชาติทำออกมาได้กำลังดีเลย ไม่เปรี้ยวจนเกินไป ไม่หวานเกินไป นึกแล้วอยากกลับไปกินอีกจัง
Buffet เนื้อย่าง@ไดจัง
Buffet ปิ้งย่าง ตั้งอยู่ในซอยราชครู ประมาณ 20 เมตร ด้านซ้ายมือจากปากซอย ถ้าเข้าทางถนนพหลโยธิน อยู่เวิ้งเดียวกับร้าน T House ราคาอยู่ที่ 450 บาทต่อหัว สามารถทานได้ 2 ชั่วโมง ร้านนี้เป็นร้านในเครือเดียวกับร้านไจแอนท์ ที่ซอยพร้อมพงษ์ จุดเด่นคือ นอกเหนือจากรายการปิ้งย่าง ทางร้านยังมีปลาดิบ และ Tonkatsu บริการด้วย
น้ำจิ้มร้านไดจัง คล้ายๆ กับร้านปิ้งย่างร้านอื่นๆ ที่ทำลักษณะ Buffet คือ จะออกแนวใสๆ และมีพวกพริกขี้หนูและกระเทียมสับแบบร้าน MK ไม่ใช้กระเทียมบดเหมือนร้านปิ้ง ย่างแนวญี่ปุ่นร้านอื่นๆ ส่วนเนื้อลายและเนื้อติดมันของร้านนี้ ยังสู้ร้านคิงคองไม่ได้ เนื้อค่อนข้างเหนียว เพราะฉะนั้นแนะนำให้ย่างไม่ต้องสุกมาก จะช่วยลดความเหนียวของเนื้อลงไปได้ ส่วนอาหารทะเล บางอย่างคุณภาพใช้ได้ เช่น เนื้อปลาแซลมอน ที่ค่อนข้างสด ทำให้ย่างออกมาไม่ติดตะแกรง ส่วนกุ้งก้ามกราม ไม่สดเท่าที่ควร ทำให้เวลาที่ย่างออกมา เนื้อค่อนข้างเละ
รายการที่น่าผิดหวังและไม่แนะนำให้สั่งคือ เบคอน ที่มีกลิ่นเหม็น เป็นไปได้ว่า เนื้อหมูไม่สด ใหม่ เพราะ Tonkatsu ก็มีกลิ่นเช่นเดียวกัน แม้ว่าแป้งที่ชุปทอดออกมาจะทำออกมาใช้ได้
แนะนำให้สั่งเห็ดมาทานแทนเบคอน น่าจะอร่อยกว่า แถมหั่นมาชิ้นหนากำลังดี ข้าวกระเทียมผัดมาใช้ได้ แต่ซุปรสชาดธรรมดา ที่สำคัญ ร้านนี้ใช้ผงชูรสปริมาณมาก ทำให้ทานแล้วลิ้นชาไปเหมือนกัน คิดว่าคงไม่กลับมาทานร้านนี้อีก ถ้าเค้ายังไม่สามารถปรับปรุงในเรื่องนี้
นอกจากอาหารปิ้ง ย่าง เราลองสั่งปลาแซลมอนดิบและปลาซาบะดองมาทาน ซึ่งถือว่าคุณภาพใช้ได้เมื่อเทียบกับราคา
ของหวานมีให้เลือก 2 อย่าง ถั่วแดงเย็นและ Ice Jelly รสชาติธรรมดาๆ
เนื้อย่างแสนอร่อย@Yakiniku Tan, Thonglor
ร้านนี้เป็นร้านเนื้อย่างเจ้าโปรดแถวทองหล่อ น่าจะเป็นที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่น เพราะเห็นลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านนี้จะเป็นคนญี่ปุ่น สำหรับคนชอบทานเนื้อย่าง ร้านนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาด บรรยากาศและคุณภาพของเนื้อ ถือว่าทดแทนการไปทานเนื้อย่างที่ญี่ปุ่นได้เหมือนกัน คนที่ไม่ทานเนื้อวัว เค้าก็มีเนื้อหมู อาหารทะเลไว้บริการเช่นกันแม้จะมีให้เลือกไม่มาก
เนื้อที่เรามักจะสั่งก็จะมี Super Karubi, KataBara, Saikoro Yaki, และ Negi Tontoro ที่เป็นจานยืนพื้นและมักจะสั่งอย่างละ 2 จานเป็นอย่างน้อย เนื้อร้านนี้ลายสวย แถมนุ่มมากอีกด้วย เนื้อบางชนิด เค้าจะมีน้ำจิ้มพิเศษมาให้ ซึ่งจะเข้ากันกว่าน้ำจิ้มหลักของร้าน เช่น Negi Tontoro จะอร่อยยิ่งขึ้นถ้าทานคู่กับน้ำจิ้มงา ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
นอกจากอาหารประเภทปิ้งย่าง เค้ายังมีซุปเนื้อและบะหมี่แบบต่างๆ ให้เลือกทานด้วย เราติดใจน้ำซุปเนื้อของที่ร้าน รสเข้มข้น ไม่เผ็ดเกินไป ใส่ผักมาหลายอย่าง
ทานอาหารจานหลักเสร็จแล้ว อย่าลืมลองทาน Melon Ice Cream ที่ไม่มีที่ร้านอื่น หวาน เย็น ชื่นใจ
Nippon Tei@Rajdamri Branch
ร้าน Nippon Tei เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มาทานกี่ครั้งก็ไม่เคยผิดหวัง จริงๆ แล้วร้านนี้มีอยู่หลายสาขา แต่เรามักจะมาทานที่สาขาราชดำริเกือบทุกครั้ง เพราะที่นี่เหมือนจะเป็นครัวใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับสาขาอื่น ถ้าไปทานมื้อกลางวัน ทางร้านเค้าจะมีจัดเป็น Lunch Set ราคาพิเศษไว้บริการด้วย นอกเหนือจากเมนู A Lar Carte
ปลาดิบร้านนี้เราสามารถทานได้อย่างสบายใจ เพราะใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ที่ติดใจก็คือ Roll ของที่ร้านนี้ที่มีให้เลือกหลายแบบ Salmon Skin ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา หนังปลา Salmon กรอบ อร่อย ข้าวปั้นก็ปรุงรสกำลังดีเลย Negi Toro ก็ใส่ไส้มาแบบเต็มๆ รวมทั้ง California Temaki ที่ใส่ Avocado ชิ้นใหญ่มาก
Appetizer ที่พลาดไม่ได้ของร้านนี้ คือ Gyoza ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเมนูธรรมดาๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย ผิวกรอบนิดๆ ไม่ขี้หนียวไส้ น้ำจิ้มของร้านนี้ก็ไม่เหมือนร้านอื่นด้วย สำหรับคนชอบทานปลา แนะนำให้สั่งหัวปลา Salmon ต้มซีอิ้ว ส่วนปลาหิมะของร้านนี้ค่อนข้างธรรมดาเพราะชิ้นบางไปหน่อย เลยทำให้เนื้อปลาค่อนข้างแห้งไป
สำหรับคนที่ชอบทานของทอด แนะนำ Tonkatsu เนื้อสันใน (หมูไม่ติดมัน) ของที่ร้านนี้ เพราะทอดได้ กรอบและไม่อมน้ำมัน สำหรับคนชอบทานเส้นแนะนำให้ลองทาน บะหมี่เย็นซอสงา จานนี้เค้าใส่เครื่องมาหลากหลายแถมยังเยอะอีกด้วย น้ำซอสรสงาก็หอม อร่อย เข้ากันได้ดีทีเดียวกับบะหมี่เส้นเล็ก
ทานอาหารมื้อหลักจบแล้ว อย่าลืมล้างปากด้วย Ice Cream มีหลายรสให้เลือก ที่ลองทานก็มี งาดำและถั่วแดง อร่อยทั้ง 2 รสเลยค่ะ
==========================================
Restaurant Name: Nippon Tei
Location: Rajdamri Branch (Nanthawan Bldg.)
Price: 600-1,200 THB/Person
==========================================
หง่อนหลำ อาหารเวียดนามแสนอร่อย
ร้านหง่อนหลำ เป็นร้านอาหารเวียดนามเก่าแก่ร้านหนึ่ง แถวย่านสะพานเหลืองใกล้ๆ กับธนาคารไทยพาณิชย์สาขาสะพานเหลือง แต่ถ้าไปทานมื้อกลางวันน่าจะหาที่จอดรถค่อนข้างลำบาก วิธีเดินทางไปร้านนี้ แนะนำให้นั่ง Taxi ไปจะสะดวกที่สุด อาหารที่ร้านนี้จานค่อนข้างใหญ่ เหมาะสำหรับไปทานกัน -3-4 คนขึ้นไป ถ้าไปจำนวนคนน้อยกว่านั้น แนะนำให้ลองสั่งเป็น set menu ที่ทางร้านจัดไว้สำหรับทาน 2 คน จะได้ลองทานอาหารหลายๆ อย่าง
แหนมเนือง ชิ้นใหญ่ ปรุงรสอร่อย ทานคู่กับเครื่องเคียงที่จัดมาคู่กัน และน้ำจิ้มรสเด็ด ข้าวเกรียบปากหม้อ แป้งบาง ไส้เยอะ แถมมีหมูยอหั่นฝอยโรยมาเต็มจาน ปอเปี๊ยะญวนทอด เป็นเมนูอีกจานที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนชอบทานของทอด เพราะเค้าให้ไส้มาเยอะและแป้งด้านนอกทอดมาได้กรอบ ต้องทานตอนที่ร้อนๆ จะอร่อยที่สุด
อาหารจานแปลกที่พึ่งเคยทานครั้งแรก เห็นจะเป็นยำหลดบัว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช้ส่วนไหนมาทำ รสจัดจ้าน อาจจะออกเผ็ดเล็กน้อย ตัวหลดบัวเองไม่เหนียวเลย กุ้งพันอ้อย ก็ทำออกมาไม้ใหญ่ เนื้อกุ้งสด เหนียวหนึบ ทานคู่กับน้ำจิ้มทะเลและเส้นหมี่ขาว
ถ้ายังมีที่ในกระเพาะเหลือแนะนำให้ลองทาน เฝอหมู เพราะที่ร้านนี้เค้าใส่สารพัดหมู ทั้งหมูนุ่ม ลูกชิ้นหมู และหมูยอ ที่สำคัญ หมูของร้านนี้เค้าชิ้นใหญ่แต่เนื้อนุ่มจริงๆ แต่ต้องขอเตือนก่อนว่า ชามใหญ่มาก ไม่สามารถทานคนเดียวหมด ส่วน เฝอเนื้อ เนื้อวัวค่อนข้างเหนียวไปเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมี หมูย่างใบชะพลู ที่ย่างออกมาได้หอมทีเดียว และขนมเบื้องญวน ที่ทำออกมาได้ดีเช่นกัน
ของหวานมีหลายอย่างให้เลือก แต่เราลองทานสาคูข้าวโพด ที่ร้านนี้เค้าใช้ข้าวโพดข้าวเหนียวมาทำ ทำให้เนื้อออกหนึบๆ เล็กน้อย อร่อยดีค่ะ
========================================
Restaurant Name: Ngon Lam+
Location: Rama 4
Price: 200-300 THB/Person
========================================
Biscotti@Four Seasons Hotel
Biscotti เป็นร้าน Italian ร้านโปรด ตั้งอยู่ในโรงแรม Four Seasons เมนูแนะนำที่ไม่มีที่ร้านอื่นคือ Focaccia with Parma Ham, Rocket and Shaved Parmesan เป็นจานที่ทานกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ และมักจะสั่งซ้ำเกือบทุกครั้ง แป้ง Pizza บางกรอบ แถมมีกลิ่นหอมๆ ของ Truffle Oil อร่อยสุดยอด
วันนี้ไม่หิวมาก เลยสั่งมาไม่กี่จาน Spaghetti ที่สั่งวันนี้ (Spaghetti with Seafood, Olive Oil and Chili) ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อย เพราะปรุงรสจืดไปนิด สงสัย chef จะลืมใส่ chilli มาด้วย ไว้ค่อยมาแก้ตัวใหม่รอบหน้า
===========================================
Restaurant Name: Biscotti
Location: Four Seasons Hotel
Price: 1,000-1,200 THB/Person (without wine)
===========================================
สุดยอดกุ้ยช่าย@ตลาดสามย่าน
กุ้ยช่ายร้านดังแห่งตลาดสามย่าน ที่ไปกี่ครั้งก็มักจะเจอคิวยาวอยู่เสมอๆ วันนี้อยากกินมากถึงขนาดผลัดกันเข้าคิว โดยให้อีกคนไปทานก๋วยเตี๋ยวรอ ที่ร้านเค้ามีเบอร์ให้ด้วยแต่เค้าไม่รับสั่งจองทางโทรศัพท์ สงสัยให้เบอร์ไว้โทรเช็คร้านเปิดแค่นั้น ในเมื่อร้านนี้เค้าไม่ง้อลูกค้า ใครอยากทานก็ไปเค้าคิวรอทานเอง วันนี้เข้าคิวรอ นานถึงเกือบ 2 ชั่วโมง!
จากในรูป จะเห็นอาม่ายังคงนั่งปั้นกุ้ยช่ายเองอยู่เลย พร้อมลูกมืออีก 3-4 คน แป้งกุ้ยช่าย เค้าทำกันใหม่ๆ จะเห็นว่าไส้แต่ละไส้ผัดออกมาได้น่าทานมากๆ ส่วนด้านหลังร้านจะเตรียมบรรจุน้ำจิ้มใส่ถุง กุ้ยช่ายร้านนี้มีหลายไส้ มีทั้ง ไส้ผัก มันแกว เผือก หน่อไม้ และข้าวเหนียว (มีบางวัน) ราคาเท่ากันทุกไส้ คือ 10 บาท
กุ้ยช่ายร้านอาม่า ลูกใหญ่มาก ทานลูกเดียวก็อิ่มแล้ว แถมร้านนี้เค้าใส่ไส้มาแบบพูนๆ สำหรับคนที่ไม่เคยทาน แนะนำให้ลอง ไส้หน่อไม้ เพราะยังหาร้านที่ทำอร่อยเทียบเคียงได้ยาก แถมแป้งบางและนุ่มนวลอีกด้วย น้ำจิ้มเค้าก็ไม่น้อยหน้า อร่อยทีเดียวค่ะ
ระหว่างรอเราไปทานก๋วยเตี๋ยวแคะที่อยู่ตรงร้านหัวมุม ตรงทางเข้าตลาด ร้านนี้มีลูกชิ้นให้เลือกหลายอย่าง รวมทั้งลูกชิ้นเต้าหู้ที่หาทานยาก ราคาไม่แพง แถมอร่อยใช้ได้เลยค่ะ
กั๋มหล่ง เยาวราช (Kitchen Kumlong)
ร้านอาหารจีน Cantonese Style ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณ china town เมืองไทย หรือเยาวราชนั่นเอง ร้านตั้งอยู่ตรงหัวมุมของถนนลำพูนไชยพอดี ประมาณต้นถนนเยาวราช เปิดทั้งช่วงกลางวันและเย็น ผัดผักร้านนี้อร่อยเกือบทุกจานเลย วันนี้เราสั่งผัดผักมาหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นผักกาดแก้วน้ำมันหอย (120 THB) ผัดมาได้เก่งจริงๆ เพราะตัวผักยังกรอบอยู่เลย หน่อไม้ทะเลเจี๋ยน ที่ทำออกมาได้น่าทาน จานนี้ใช้หน่อไม้ทะเลถึง 1 กระป๋อง (760 THB)
อาหารจานที่อยากจะแนะนำของร้านนี้ คือ เนื้อแพะผัดปาท่องโก๋ (220 THB) เนื้อแพะนุ่ม ไม่เหนียวเลย แถมเข้ากันดีทีเดียวกับปาท่องโก๋กรอบๆ หั่นมาเป็นชิ้นบางและเครื่องอย่างอื่นอีกหลายอย่าง อาหารจานนี้ควรทานกับข้าวสวยร้อนๆ จะได้ไม่เลี่ยนจนเกินไป เต้าหู้ทรงเครื่อง ก็ใส่เครื่องหลายอย่าง รสชาติดี
สำหรับจานที่พลาดไม่ได้เลย คือ ผักบุ้งผัดเคย (150 THB) ที่ต้องสั่ง 2 จานทุกครั้งที่มาทาน เพราะสมาชิกชอบกันทุกคน จนทานหมดอย่างรวดเร็ว ถั่วแขกผัดหนำเลี๊ยบ (180 THB) ก็อร่อยไม่แพ้กัน ทำรสออกมาได้อร่อยมากจริงๆ ถั่วแขกกรอบๆ เข้ากันได้ดีกับหนำเลี๊ยบและหมูสับ
จานถัดมา มะเขือยาวปลาเค็ม (180 THB) รสอาจจะเค็มไปเล็กน้อย เป็นคนละแบบกับร้านสมบูรณ์โภชนา ร้านนี้รสจะเข้มกว่า แต่ถ้าใส่น้ำจิ้ม seafood น่าจะทำให้อร่อยขึ้น สำหรับอาหารจานสุดท้ายของวันนี้ ปลาเก๋านึ่งซีอิ้ว (800 THB) ที่ทำออกมาได้ดีเช่นกัน น้ำซีอิ้วรสกลมกล่อม เนื้อปลาสดมากๆ เพราะเค้าใช้ปลาเป็นๆ ที่อยู่ในตู้หน้าร้านมาทำ แต่หลังจากเคยทาน เนื้อปลาเก๋าทอดนึ่งซี่อิ้ว มาก่อน ส่วนตัวเลยชอบให้นำปลาเก๋าไปทอดก่อนแล้วค่อยมาราดด้วยน้ำซีอิ้ว
ของหวานวันนี้ พุทราทอด จานนี้ค่อนข้างแห้งไป เนื้อพุทรารสออกขม ไม่ค่อยถูกใจซักเท่าไหร่ แต่เป็นจาน complimentary dish จากทางเจ้าของร้าน
Subscribe to:
Posts (Atom)