Bourbon Street Restaurant and Oyster Bar

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามาทานอาหารที่ร้านนี้ ปกติแล้วเรานิยมที่จะมาทานร้านนี้กันวันอังคารช่วยเย็นเพราะเค้าจะมี promotion คืนกำไรให้ลูกค้า จัดเป็น Mexican Buffet ในราคาที่คุ้มค่ามากๆ จำราคาแน่นอนไม่ได้ แต่น่าจะไม่เกิน 300 บาท ถ้าอยากแน่ใจก่อนเป็นทาน แนะนำให้โทรไปสอบถามตามเบอร์ด้านล่างค่ะ วันนี้เราไปทานกันวันพฤหัสซึ่งเป็นเมนู A lar carte เลยได้ลองสั่งอาหารที่ปกติไม่รวมใน Buffet Menu





รายการแรก ลองสั่ง New England Clam Chowder (130 THB) มาชามใหญ่มาก สามารถ share กันได้ถึง 4 คน ที่ร้านพนักงานน่ารักทุกคน แถมเจ้าของร้านก็มานั่งคุยด้วย ระหว่างที่รออาหาร ดูเป็นกันเองกับลูกค้าดีค่ะ Clam Chowder ใส่หอยลายมาเพียบ ตักไปตรงไหนก็เจอแต่หอยลาย รสดีจริงๆ สำหรับคนชอบทานรายการนี้ ห้ามพลาดเลยค่ะ ถัดมาเราลองสั่ง Baffalo Wings (150 THB) ซึ่งจะเสริฟพร้อม coleslaw และ blue cheese dipping จริงๆ แล้วสำหรับคนที่ชอบทานรสจัด แนะนำให้สั่งเป็น Fire Wings เพราะรู้สึกว่าจานนี้จะเข้มข้นน้อยไปนิดนึง Appetizer จานสุดท้ายก่อนเริ่ม Main Course คือ Nachos (150 THB) ซึ่งเราขอให้ที่ร้านเปลี่ยนจาก shredded beef เป็น shredded chicken แทน เนื่องจากเพื่อนหลายคนไม่ทานเนื้อวัว จานนี้เสริฟคู่กับ guacamole และ salsa sauce อร่อยดีค่ะ ต้องรีบทานตอนร้อนนะคะ ไม่งั้นแป้งข้าวโพดมันจะนิ่มซะก่อน





ถัดจาก Appetizer ก็มาต่อกันด้วยของหนักๆ กันบ้าง จานแรกพนักงานเสริฟ
แนะนำให้ลอง Jambalaya (240 THB) โดยเราสามารถเลือกเนื้อสัตว์ที่จะปรุงไปกับข้าวว่าจะเอาเป็นไก่หรือกุ้ง ของเราเลือกเป็นกุ้ง หน้าตาดูน่าทานมากๆ เสริฟมาคู่กับ Corn Bread และ Zucchini ตัวข้าวที่ผัดมากับกุ้งเข้มข้น อร่อยมากๆ เนื้อกุ้งสด แถมให้มาเยอะอีก ร้านนี้เค้าไม่ขี้เหนียวส่วนผสมที่ใส่มาเลย แต่ Corn Bread ที่เสริฟมาด้วยกัน รู้สึกว่าจะแข็งไปหน่อย ถ้าอบให้ร้อนๆ และนุ่มกว่านี้จะดีมาก ถัดมาเป็น Blackened Red Fish (320 THB) ที่เสริฟมาคู่กับ Eggplant ground pork dirty rice รวมทั้ง Zucchini และ Corn Bread เช่นเคย โดยเนื้อปลาในจานนี้ รสชาติใกล้เคียงกับ Jambalaya ตามที่ลองชิมดู เพราะฉะนั้นถ้าสั่ง Jambalaya แล้วแนะนำให้ลองสั่งเป็นรายการอื่นน่าจะดีกว่า จะได้ลองรสชาติหลากหลาย จากที่ดูในเมนู Andouille Sausage Gambo ก็เป็นอีกจานที่น่าสนใจ




มาทานอาหาร Mexican แล้วไม่ได้สั่ง Fajitas ก็ดูเหมือนว่าจะขาดอะไรไป เลยต้องสั่ง Shrimp Fajitas (390 THB) มาตบท้าย จานนี้มาเป็นกระทะร้อน มีกุ้งมาหลายตัว เสริฟพร้อม flour tortillas และเครื่องเคียงทั้งหลาย (sour cream, guacamole, salsa, and shredded cheese) กุ้งผัดมากำลังดี แต่เพื่อนบางคนบอกว่าจืดไปนิดนึง อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ถ้าคนทานเค็ม อาจจะอยากให้เค็มขึ้นกว่านี้ ส่วนแป้งมันและไปนิดนึงค่ะ อยากให้หนากว่านี้เล็กน้อย เพราะเวลาใส่ไส้ลงไปมันจะ wrap ไม่ค่อยอยู่ ทานยากไปนิดนึง แต่โดยรวมก็อร่อยนะคะ





ของหวานสั่งมาลอง 2 อย่าง คือ Lemon Tart และ Pistachio Creme Blulee ส่วนตัวแล้วชอบ Lemon Tart ของที่ร้านนี้เพราะเปรี้ยวสะใจดี แถมแป้งพายก็กรอบร่วนใช้ได้ แต่ Creme Blulee อาจจะอบมาเละไปนิดนึง ถ้าเนื้อแน่นกว่านี้นิดนึงก็จะดีค่ะ อีกอย่างไม่ได้ความรู้สึกของ Pistachio แม้แต่เล็กน้อย น่าจะมี Grated Pistachio เป็น topping มาด้วยจะดีกว่านี้มาก



โดยรวมแล้วเราชอบรสชาติอาหารส่วนใหญ่ของที่นี่เพราะให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการทานอาหาร Mexican ที่อเมริกา แม้จะไม่เหมือนกันทีเดียวแต่ก็พอทดแทนกันได้นะคะ จริงๆ แล้วร้านนี้เค้ามีรายการเด็ด คือ Lived Crawfish ที่เค้าจะนำไปต้มกับสมุนไพร บังเอิญว่าเพื่อนไม่อยากสั่งเพราะสงสาร เลยเดินไปดูในตู้ที่เลี้ยงแทน ไม่รู้ใช่แบบเดียวกับที่เอามาเสริฟหรือเปล่า เพราะตัวมันใหญ่กว่า crawfish ที่เคยเห็นมา





========================================
Restaurant Name: Bourbon Street Restaurant &
Oyster Bar
Location: Sukhumvit 22, Bangkok
Price: 500 THB/Person
========================================

Bacco Italian Restaurant


ร้าน Bacco ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 53 ถ้าเข้าจากถนนสุขุมวิท น่าจะขับเข้ามาซักประมาณ 300 เมตร ร้านอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนที่จอดรถจะอยู่ตรงข้ามร้านอาหารเลย ร้านนี้มีทั้งส่วนที่เป็น Wine Bar ด้วย ร้านใหญ่พอสมควร มีที่นั่งมากมาย แถมมี private room ด้วย ชื่อร้าน "Bacco" มาจากคำว่า "Bacchus" ซึ่งแปลว่า God of Wine สมชื่อร้านนี้เพราะมีไวน์ให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับคนชอบดื่มไวน์ สำหรับอาหารจานแรกที่เสริฟให้ลูกค้าก่อนเลย (Complimentary) เป็น Pizza Bread แป้งอร่อยใช้ได้ทานคู่กับน้ำมันมะกอกและ Balsamic Vinaigrette วันนี้มาทานกันแค่ 2 คนเลยสั่งอาหารได้ไม่กี่อย่าง เริ่มต้นมื้อกันด้วย Insalata Delio Chef (230 THB) เป็นสลัดแบบง่ายๆ ใส่ tuna, achovies, salad leaves, egg, tomato, onion & potato





ถัดมาเป็น Pizza เราเลือกสั่งแบบ 2 หน้า หน้าแรกชื่อ Diabla (tomato, mozzarella, spicy salami, bell pepper, italian sausage, olives, and hot chilli) ที่แปลกสำหรับหน้านี้คือ เค้าจะจุดไฟมาบนหน้า pizza ด้วย แต่ถ่ายรูปมาไม่ทัน เพราะแป็บเดียวไฟก้อดับแล้ว ส่วนอีกหน้าเราสั่งเป็น Quattro Formaggi (mozzarella, gorgonzola, smoked scamorza & parmesan) อร่อยทั้ง 2 หน้าเลย pizza ที่ร้านนี้เป็นแบบแป้งบาง อร่อยจริงๆ





หน้าที่เป็น four cheese ได้กลิ่นของ blue cheese มาเต็มๆ บังเอิญว่าตัวเองชอบ blue cheese อยู่แล้วก็เลยถูกใจ แต่กลิ่นอาจจะแรงไปสำหรับบางคนที่ไม่ชอบชีสประเภทนี้นะคะ





สำหรับเมนู spaghetti ของที่ร้านนี้มีให้เลือกเยอะมากๆ เราลองเลือกรายการที่เป็นรายการ christmas special ซึ่งปกติเค้าจะไม่ทำขาย ชื่อว่า Tagliolini Alla Battarga E Uova Di Salmone (480 THB) จานนี้เค้าจะใช้เส้น spaghetti สดมาผัดกับเครื่องปรุงพิเศษที่รสหอมมากๆ แล้วโรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอนกับพริกแห้ง อร่อยดีค่ะ ส่วนอีกจาน เราสั่งเป็น Ravioli Crema Di Tartufo Rucola E Porcini (a.k.a.Truffle Ravioli) 450 THB รู้สึกว่าจานนี้ซอสจะออกรสหวานไปนิดนึง ทำให้ออกเลี่ยน ถ้าเค็มขึ้นอีกนิด จะอร่อยกว่านี้ค่ะ ส่วนไส้ของ ravioli น่าจะใส่เยอะกว่านี้นิดนึง ส่วนตัวชอบ Truffle Ravioli แบบที่ปรุงที่ร้าน Chef Gaggan





ของหวานเราสั่งเป็น Profiteroles (260 THB) หน้าตาดูน่าทาน แต่แป้งหนาไป ทำให้ไม่ค่อยอร่อยเท่าที่ควร ของหวานจานนี้จุดเด่นอยู่ที่แป้งถ้าตัวแป้งทำออกมาไม่ดี ก็จะเหมือนกับทาน Vanilla Ice Cream บนขนมปังแข็งๆ ราดหน้าด้วย chocolate sauce จริงๆ แล้วมีอาหารจานอื่นๆ ที่เจ้าของร้านแนะนำหลังจากไปอ่านเจอใน magazine แต่เราไม่ได้ลองทาน เช่น Spaghetti with live main lobster, Piada, etc. ไว้ต้องมาใหม่รอบหน้าค่ะ


=======================================
Restaurant Name: Bacco
Location: Sukhumvit 53
Price: 1,200 THB/Person
=======================================

Parferio By Sfree


ร้านขนมน่ารักๆ สไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ The Davis Hotel ในซอยสุขุมวิท 24 ตัวร้านตกแต่งได้ชวนน่านั่งแต่ความสูงของเก้าอี้กับโต๊ะ ดูจะผิดสัดส่วนไปนิด เลยนั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ สงสัยไม่อยากให้ลูกค้านั่งนานๆ เมนูของที่ร้านนี้ทำรูปออกมาได้น่าทานมากๆ แต่พนักงานเค้าไม่ให้ถ่ายรูป เราก็เลยถ่ายมาแต่ขนมที่สั่งมาทาน เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะมาก ส่วนใหญ่เน้นประเภทที่ carolies ต่ำ สำหรับคนที่กลัวอ้วน สามารถเช็ค carolies ของบางรายการได้ด้วย จะได้ทานได้อย่างสบายใจ เราลองสั่ง Matcha Freddo (Green Tea Latte) และ Salmon Smoothie (Strawberry, Peach, Yoghurt) มาลอง เห็นเพื่อนที่ทาน Salmon Smoothie ชมว่าอร่อย ส่วน Matcha Freddo รสไม่เข้มข้นเท่าที่ควร ใครชอบ Green Tea Latte ไปทานของร้าน starbucks น่าจะอร่อยกว่า





สำหรับของหวานสั่งมา 3 รายการ เมนูแรก ชื่อ Parfait Rio (125 THB) เป็น chocolate ice cream, soft chocolate, and chocolate cake ใส่มาในถ้วย โปะด้านบนด้วย soft cream แล้วราด chocolate sauce และมี chocolate wafer ใส่มาด้วย รสชาติใช้ได้ เหมาะสำหรับคนชอบ chocolate





เมนูที่สองเป็น Signature Crepe (145 THB) ของที่ร้านนี้เลย แป้ง crepe บางใช้ได้ ด้านในเป็น Yoghurt Ice Cream รสออกเปรี้ยวๆ แต่ไม่มัน เลยออกธรรมดาไปนิดนึง สำหรับเมนูสุดท้ายที่พนักงานแจ้งว่าต้องรอ 15 นาที Chocolate Fondant (169 THB) ที่ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร แป้งด้านนอกเละ ซึ่งจริงๆ ต้องอบให้นานกว่านี้ ทำให้ซอสด้านในมันออกมาเละๆ ปนกับแป้ง จานนี้สู้หลายๆ ร้านไม่ได้เลย ถ้าใครอยากทานจานนี้ไปทานที่ร้าน Tessa ตรง Thonglor น่าจะไม่ผิดหวัง โดยรวมแล้วร้านนี้ตกแต่งสวย น่านั่ง แต่รสชาติขนมยังธรรมดาไปนิด ถ้าจะให้กลับมาอีกครั้งอาจจะต้องคิดดูก่อนค่ะ


========================================
Restaurant Name: Parferio By Sfree
Location: Sukhumvit 24, Bangkok
Price: 200-300 THB/Person
========================================

Marina HK at Siam Square










==========================================
Restaurant Name: Marina HK
Location: Siam Square
Price: 38 and up/dish
==========================================

Poklisar Restaurant (Dubrovnik)

Poklisar เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในบริเวณแถบเมืองเก่า Dubrovnik ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือริมทะเลเลย ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นเล็กน้อย ประมาณ 11-16 องศาเซลเซียส ทำให้ต้องไปนั่งด้านในร้านแทน ถ้าอากาศอุ่นกว่านี้ นั่งทานอาหารด้านนอกจะได้บรรยากาศของทะเล Adriatic บวกกับชมวิวสวยๆ ของบริเวณท่าเรือ



แม้ว่าอาหารที่เรามาทานมื้อนี้จะเป็น set menu ที่ include อยู่ใน package tour แต่รสชาติอาหารถือว่าทำออกมาได้อร่อยทีเดียว เมื่อเทียบกับร้านอาหารอื่นๆ ที่ทานมาใน trip นี้ ซุปฟักทอง รสชาติกลมกล่อมทานกับขนมปังอุ่นๆ ช่วยแก้ความหนาวได้ดี



Main Dish ของวันนี้เป็น Chicken Steak ราดซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ไก่เนื้อนุ่มเข้ากับซอสที่ราดมา ของหวานเป็น pistachio and mocha ice cream รสหวาน มัน ชื่นใจ



============================================
Restaurant Name: Poklisar
Location: Dubrovnik, Croatia
Price: N/A
============================================

Volcano Spaghetti House


เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสแวะไปทานอาหารที่ร้านนี้อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้มาอุดหนุนมาเป็นเวลานาน Volcano Spaghetti House เป็นร้านอาหาร Italian ในแบบ Japanese Style เนื่องจากเป็นร้านสาขาจากร้านต้นตำรับที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ที่ติดใจมากที่สุดของที่ร้านนี้คือ น้ำสลัดแบบใส ซึ่งทำได้อร่อยจริงๆ ปกติแล้วเรามักจะแวะมาซื้อแค่น้ำสลัดกลับไปทานที่บ้านแม้ว่าจะไม่ได้มาทานอาหารที่ร้าน ซื้อกันมาตั้งแต่ขวดละ 180 บาท จนปัจจุบันราคาอยู่ที่ 230 กว่าบาท ขวดไม่ใหญ่มาก size ประมาณขวดน้ำขวดเล็ก มาร้านนี้ถ้าขับรถกันมาหลายคันอาจมีปัญหาเรื่องที่จอดรถเพราะตัวร้านเค้าตั้งอยู่ใน Sukhothai Mansion ที่จอดรถมีไม่มาก





วันนี้มาทานกันหลายคนเลยสั่งอาหารได้มากหน่อย เราใช้วิธีสั่งอาหารหลายๆ จาน แล้วมา share กันตรงกลาง ยกเว้นซุปซึ่งเหมาะจะทานคนเดียวมากกว่า เราไม่ได้สั่งซุปมาทานแต่แอบลองชิมของคุณพ่อ ที่สั่งซุปฟักทองมาทาน รสเข้มข้นทีเดียว อร่อยดีค่ะ จานที่อยากแนะนำให้สั่งเป็น appetizer คือ หอยลายเนยกระเทียม ทานคู่กับ garlic bread ซึ่งร้านนี้เค้าทำออกมาได้ไม่เลี่ยนเลย มีพริกแห้งใส่มาด้วย จะแตกต่างจากร้านอื่นตรงที่ทำออกมาได้ไม่แฉะเกินไป ขนมปังก็อบมากรอบกำลังดี อร่อยใช้ได้เลยค่ะ ถัดมาที่จะพลาดไม่ได้เลยถ้ามาทานอาหารที่ร้านนี้ Volcano Salad ซึ่งเป็น signature dish ของร้านนี้ น้ำสลัดรสชาดกลมกล่อม อร่อยมากๆ ใส่อาหารทะเลหลายๆ อย่าง เข้ากันได้อย่างลงตัว




Caesar Salad ก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่น่าสนใจ จากที่ทานดู คิดว่าน่าจะใช้น้ำสลัดแบบเดียวกับ volcano salad เพียงแต่เติม grated parmesan และ crouton ลงไปด้วย อร่อยดีค่ะ


ร้านนี้เค้าเน้นขาย spaghetti เป็นหลัก เพราะร้านนี้เค้าทำเส้นขายเอง สามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วย เมนู spaghetti มีให้เลือกมากมายจนเลือกไม่ถูกจริงๆ รูปถ่ายไม่ได้มีให้ดูทุกรายการ แต่เราสามารถสอบถามรายละเอียดจากพนักงานเสริฟได้ค่ะ จานแรก spaghetti with pesto sauce and minced beef สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อแต่อยากทาน pesto sauce ก็สามารถเลือกใส่เป็นเครื่องอย่างอื่นแทนได้นะคะ ด้านบนเค้าจะโรย almond ฝานบางๆ มาด้วย จานนี้ต้องทานตอนร้อนๆ จะอร่อยที่สุด เพราะถ้าปล่อยไว้จนเย็น เนื้อสับมันจะจับตัวเป็นก้อนๆ กับ pesto sauce


Spaghetti with shrimp and tomatoes ผัดมาแบบแห้งๆ ซึ่งที่ร้านนี้เค้าลวกเส้นได้สุกกำลังดีเลย จานนี้ก็ปรุงรสออกมาได้ดีแม้ว่ากุ้งอาจจะน้อยไปซักนิด สำหรับคนชอบรสจัดหน่อย ถ้าสั่งเป็นแบบผัดพริกแห้งและกระเทียม น่าจะถูกใจกว่า


Saffron Risotto เมนูนี้เป็นเมนูสุดโปรดของเราเลย ต้องสั่งทุกครั้งที่มาทาน สำหรับคนที่ไม่ทานอาหารทะเลสามารถเปลี่ยนเป็นแฮมกับเห็ดก็ได้นะคะ อร่อยเช่นเดียวกันเลย Risotto ของที่ร้านนี้อาจจะไม่เหมือนกับ Risotto ที่ไปทานที่ร้านอาหาร Italian ร้านอื่นๆ ดูแล้วน่าจะเหมือนกับทานข้าวต้ม saffron มากกว่า ส่วนตัวแล้วชอบมากเพราะ Risotto ชามนี้ไม่เลี่ยนเลย แถมได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของ saffron ด้วย ถ้าชอบให้ข้นขึ้น เพียงตั้งไว้ซักครู่ น้ำซุปก็จะข้นกำลังดี


Pizza มีให้เลือกหลายหน้า หรือจะสั่ง 2 หน้ามาในจานเดียวกันก็ได้ถ้านึกไม่ออกจริงๆ วันนี้เราลองสั่งหน้านึงเป็น eggplant with cheese ส่วนอีกหน้าจำไม่ได้ว่าใส่อะไรบ้าง ลองทานแค่หน้าที่เป็น eggplant ก็อร่อยดีค่ะ ส่วนแป้งอาจจะสู้ร้านที่อบแป้งใน wood fired oven ไม่ได้



จานสุดท้าย spaghetti with seafood tomatoes sauce ดูหน้าตาดีมากๆ แต่ไม่ได้ลองทาน เห็นน้องชายสั่งมาทาน ดูซอสเข้มข้นดีค่ะ แถมใส่เครื่องทะเลมาเต็มจาน


ของหวานสั่ง chocolate fudge มาทานคู่กับ Vanilla Ice Cream ลองทานไปหนึ่งคำก็อร่อยดีค่ะ


==============================================
Restaurant Name: Volcano Spaghetti House
Location: Sukhothai Mansion, Sukhothai Road, Bangkok
Tel.: 02-2436237-8
Price: 500 THB/Person
==============================================

Sung Kung Korean Restaurant


ร้าน Sung Kung เป็นร้านอาหารเกาหลีเล็กๆ ที่อยู่ใน Sena Center เลย The Avenue ตรงรัชโยธินไปนิดเดียว เจ้าของร้านเป็นคนไทยที่ชื่นชอบในอาหารและวัฒนธรรมของเกาหลี ถึงกับลงทุนไปร่ำเรียนวิธีการปรุงอาหารเกาหลี โดยในช่วงแรกที่เปิดร้าน จะมี chef ที่เป็นคนเกาหลีมาช่วยดูแลรายการอาหารให้ เรารู้จักร้านนี้จากเพื่อน แต่ปรากฎว่าร้านนี้มีรายการทีวีนำไปออกรายการหลายช่องทีเดียว



ก่อนอื่นมาดูรายการเครื่องเคียงของร้านนี้กันบ้าง มีรายการนึงที่ไม่เคยเห็นเสริฟที่ร้านเกาหลี นั่นก็คือ เส้นมะละกอหั่นฝอย ไม่แนใจว่าเป็นรายการประยุกต์หรือเปล่า แต่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ามันแปลกไปนิดนึง นอกนั้นก็เป็นเครื่องเคียงแบบที่เคยทานที่ร้านเกาหลีทั่วไป รายการที่ชอบมากที่สุดในบรรดาเครื่องเคียงทั้งหลาย คือถั่วเชื่อม รสชาด หวานๆ มันๆ ทานแล้วเพลินดี หมดโดยไม่รู้ตัว รายการที่สั่งทานวันนี้ไม่มีเมนูเนื้อวัว เพราะเพื่อนไม่ทานเนื้อ เราก็เลยสั่งเป็นหมูหมักน้ำพริกเกาหลี (250 THB) โดยขอมาย่างเองที่โต๊ะ เนื้อหมูหมักมาอร่อย ใช้ได้ค่ะ คือปกติแล้วเราไม่ค่อยได้สั่งเนื้อหมูเท่าไหร่ แต่ของร้านนี้นุ่ม ไม่เหนียวค่ะ



เมนูที่เราโปรดสุดของวันนี้ แกงกิมจิซังกุง มี 2 sizes (S: 150 THB, L: 300 THB) เสริฟพร้อมข้าวสวย โดยที่เราอาจจะทานกิมจิราดข้าว หรือจะนำข้าวใส่ลงไปในหม้อร้อน ก็จะกลายเป็นข้าวต้มกิมจิ รสชาดดี แถมมีเครื่องมาเต็มหม้อ มีไส้กรอกใส่มาด้วย แต่หมูเป็นแบบหมูติดมัน สำหรับคนที่ไม่ชอบมันหมู จะเขี่ยมันหมูออกก็ได้นะคะ เพราะซุปถ้วยนี้อร่อยจริงๆ



เมนูนี้ไม่ค่อยได้สั่งมาทานเพราะมักจะอิ่มก่อน แต่วันนี้นึกอยากทานขี้นมา Pizza แบบเกาหลี จริงๆ แล้วเค้ามีชื่อเรียก แต่จำไม่ได้ เครื่องมีหลายแบบให้เลือก เราเลือกทานเป็นหน้าทะเล ตอนสั่งบอกพนักงานให้ทำแบบกรอบพิเศษ ซึ่งเค้าก็ทำออกมาได้ดี ทานกับซอสที่เสริฟมาคู่กัน เครื่องทะเลเยอะดีค่ะ


ทานไปซักพัก เจ้าของร้านเดินมาคุยด้วย ก็เลยได้โอกาสให้แนะนำเมนูเด็ดของร้าน ทางร้านเค้าแนะนำ Bibimbab ซึ่งก็คือข้าวยำเกาหลีนั่นเอง จริงๆ ก็อิ่มแล้วแต่อยากลองทานดู เจ้าของร้านเห็นเราทานกันเก่งมาก ก็เลยบอกว่าให้ทานไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ จะนอนเล่นที่โซฟาแล้วค่อยทานต่อใหม่ก็ได้ ช่างน่ารักจริงๆ มาร้านนี้เหมือนนั่งทานข้าวอยู่บ้านตัวเอง สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน ข้าวยำทะเล อร่อยจริงๆ ส่วนไข่ที่ใส่มาด้วยเป็นแบบสุกนิดๆ ไม่ได้ใช้ไข่ดิบเหมือนสูตร original แต่น่าจะถูกปากคนไทยมากกว่า เพราะคนไทยไม่ค่อยนิยมทานไข่ดิบเท่าไหร่ เมนูนี้อร่อยจริงๆ ค่ะ


ทานอาหาร Main Course จบแล้ว พนักงานยกขนมมาให้เป็น complimentary dish จากเจ้าของร้าน ตกแต่งมาน่าทาน ทำให้เราประทับใจในบริการ สงสัยต้องรีบกลับไปอุดหนุนใหม่เร็วๆ นี้ค่ะ


============================================
Restaurant Name: Sung Kung
Location: Sena Villa, (Near Phaholyothin 37)
Price: 300-400 THB/Person
============================================

Turkish Ice Cream@Istanbul Airport


ร้านไอศครีมร้านนี้ ตั้งอยู่หน้าร้านขาย souvenir ซึ่งมีอยู่ร้านเดียวบริเวณที่รอต่อเครื่องบินในสนามบิน Istanbul แรกสุดก็ไม่ค่อยอยากทานไอศครีมเท่าไหร่แต่ระยะเวลารอต่อเครื่องนานมากๆ นั่งดูคนทำไอศครีมไปมาจนต้องเดินเข้าไปอุดหนุน Turkish Ice Cream จะมีลักษณะพิเศษตรงที่ texture จะมีความเหนียวมากกว่าไอศครีมปกติทำให้ละลายได้ช้าแม้ว่าจะตั้งทิ้งไว้ซักพักก็ตาม เราลองทาน 2 รส คือ Vanilla และ Pistachio ที่นี่ขาย scoop ละ 3 USD หรือ 2.50 Euro






เค้าจะมี toppings เป็น Pistachio ฝาน โรยมาด้านบนด้วย ไอศครีมรสชาติหวาน มัน ไม่เหมือนกับที่เคยทาน เราชอบรส Pistachio มาก เพราะได้รสชาดของ Pistachio เต็มๆ รสออกมันๆ ไม่หวานจนเกินไป แถม nut ที่โรยมาด้านบนก็สด ใหม่ กรุบกรอบ เข้ากันได้ดีกับเนื้อไอศครีม ถ้าไม่กลัวอ้วนจะเดินไปสั่งอีกซัก 2 scoops




=====================================

บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง เฮียชัย


บะหมี่เกี๊ยวกุ้งเฮียชัย ตั้งอยู่ข้างในซอยอนุมานราชธน ถ้าขับมาทางถนนพระราม 4 มุ่งหน้าบ่อนไก่ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสุรวงศ์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอนุมาราชธน ตรงมาจนถึงสามแยก ให้เลี้ยวซ้าย ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือประมาณ 150 เมตรจากสามแยก มาร้านนี้นั่งโต๊ะแล้ว ให้สั่ง order ทีเดียว เพราะเค้าจะไม่มีการทำแทรกคิว ถ้าสั่งไปน้อย แล้วอยากสั่งเพิ่มต้องไปเข้าคิวใหม่ ร้านนี้ใช้บะหมี่ไข่เส้นเล็ก





หมูแดงย่างออกมาได้หอมกลิ่นถ่าน เกี๊ยวกุ้งตัวไม่ใหญ่ แต่อร่อย ทีเด็ดเห็นจะเป็นน้ำซุปที่กลมกล่อมจริงๆ มิน่าเค้าถึงต้องขายชามละ 5 บาท ถ้าต้องการน้ำซุปเพิ่ม มาทานที่ร้านแนะนำให้สั่งแห้งชาม น้ำชาม จะได้ลองให้ครบทุกแบบ







ร้านนี้แนะนำว่าอย่ามาทานตอนหิวๆ เพราะอาจเกิดอาการโมโหหิวได้ มาทานอาหารอร่อย ก็ต้องใจเย็นๆ นะคะ




==============================================
Restaurant Name: Shrimp Wonton Hia Chai
Location: Surawong Road
Price: 30-50 THB/Dish
==============================================

บ้านมะขาม เลียบทางรถไฟ บางซื่อ

ร้านบ้านมะขาม เป็นร้านอาหารแบบง่ายๆ อยู่เลียบทางรถไฟแถวบางซื่อ หลังปูนซีเมนต์ไทย อาหารราคาถูกและอร่อย แต่ทางไปไม่สามารถบอกทางได้จริงๆ วันนั้นไปรับเพื่อนที่ปูนฯ ขับตามที่เพื่อนบอกอย่างเดียวแบบงงๆ แต่ถามคนแถวนั้นน่าจะรู้จักหมด วันนี้สั่งไป 4 อย่าง ปรุงรสออกมาใช้ได้ทีเดียว ยำผักบุ้งทอดกรอบ แป้งที่ชุปทอด บางและกรอบ น้ำยำก็รสเข้มข้น ปรุงรสกำลังดี ผัดผักคะน้าปลาเค็ม ซึ่งร้านนี้เค้าจะเลือกเฉพาะตรงส่วนก้านอวบๆ ถูกใจเรามากทีเดียว





ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา ดูหน้าตาไม่น่าทาน ออกดำๆ ตอนแรกกลัวว่าเนื้อปลามันจะแข็งๆ ปรากฎว่า ปลาเนื้อนุ่มทีเดียว ด้านนอกกรอบนิดๆ เข้ากันได้ดีจริงๆ กับน้ำยำ ที่สำคัญราคาถูกเหลือเชื่อ จานสุดท้าย ต้มยำกุ้งน้ำใส ใช้กุ้งตัวเล็กมาทำ ปรุงรสใช้ได้ แต่โดยส่วนตัวชอบแบบน้ำข้นมากกว่า สำหรับใครที่ผ่านไปแถวนั้น นึกไม่ออกว่าจะทานอะไรดี ถ้าไม่เกี่ยงว่าต้องนั่งอยู่ในห้องแอร์ ร้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว แถมมีที่จอดรถให้ด้วย





==========================================
Restaurant Name: Barn Makam
Location: Bang Sue Railroad (SCG)
Price: 150 THB/Person
==========================================

ร้านเลิศทิพย์ ข้าวต้มอร่อย

ร้านเลิศทิพย์ เป็นร้านข้าวต้มที่อยู่แถวๆ ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เป็นเส้นที่ตัดกับถนนรัตนาธิเบศร์ ใช้ไปทางตัวเมืองนนทบุรีได้ อาหารร้านนี้ถือว่าทำออกมาได้สะอาดทีเดียว ถ้าเทียบกับมาตรฐานร้านข้าวต้มห้องแถวข้างทางร้านอื่นๆ อาหารที่ร้านนี้ เค้าจะทำออกมาจานไม่ใหญ่ ทำให้ลูกค้าที่มาทานกันไม่กี่คน สามารถสั่งอาหารมาลองได้หลายๆ อย่าง ผัดผักกระเฉดของร้านนี้ เค้าจะเลือกผักเฉพาะส่วนยอดอ่อนๆ ทำให้ไม่เหนียวเลย อาหารแนะนำให้ดูได้จากกระดานซึ่งเค้าจะขึ้นป้ายไว้ รวมทั้งเป็ดพะโล้ด้วย เนื้อเป็ดร้านนี้นุ่ม อร่อย ทานกับน้ำจิ้มที่เสริฟมาคู่กัน นอกจากเป็ดพะโล้แล้ว เค้ายังมีรายการที่นำเอาเป็ดพะโล้ไปทอดกับกระเพรากรอบ อร่อยดีค่ะ





สำหรับคนที่ชอบปูทะเลไข่ดอง เค้าก็มีให้ทานด้วย เนื้อปูหวาน สด ไข่มาเต็มท้องเลย น้ำจิ้มก็รสจัด เข้ากันได้ดีเลยค่ะ ถ้าไม่กล้าทานแบบสด สามารถเลือกสั่งแบบนึ่งก็ได้ค่ะ





ส่วนอาหารที่ดูธรรมดา แต่ทำออกมาได้ดีทีเดียว คือ ไชโป๊ผัดไข่ ที่ทำออกมาได้อร่อยมากๆ หอมกลิ่นไหม้ของกระทะเล็กน้อย ข้าวต้มของร้านนี้เค้าใช้ข้าวกล้อง และใส่เผือกลงไปต้มด้วย ทำให้ข้าวนุ่ม หอมอร่อย อาหารที่ร้านนี้เค้ามีให้เลือกเยอะมากๆ มีอีกหลายเมนูที่น่าสนใจ ไว้ต้องไปลองใหม่อีกทีครั้งหน้า



============================================
Restaurant Name: Lert Thip
Location: Lieng Muang Nonthaburi, Nonthaburi
Price: 200-250 THB/Person
============================================

Sofitel Phokeethra Krabi Review
























=========================================
Resort Name: Sofitel Krabi Phokeethra
Location: Klong Muang, Krabi
Room Type: Opera Suite (Pool Access)
=========================================