วันนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้นเครื่องบินรอบ 9 โมงเช้า อีกทั้งยังต้องไปคืนรถอีก หลังจากไปถึงที่ Airport ถึงรู้ว่าจริงๆ แล้วไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้เพราะสนามบินไม่ได้ใหญ่โตอะไร counter ทุกอย่างอยู่ใกล้กันหมดเลย โรงแรมที่พักก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ดูเหมือน Flight นี้จะมีผู้โดยสารไม่ถึง 20 คน เราใช้บริการของ Air New Zealand ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นจาก Rotorua มาถึง Christchurch
>> ถ่ายจากเครื่องบินระหว่างเดินทางจาก Rotorua ไปยัง Christchurch
>> ถ่ายจากเครื่องบินระหว่างเดินทางจาก Rotorua ไปยัง Christchurch
หลังจากจัดการเรื่องรถเช่าเรียบร้อยแล้ว เราก็ตรงไปยังที่พักเป็นอันดับแรกเนื่องจากที่พักคืนนี้สามารถเข้า check-in ได้ก่อนบ่ายสอง เราจึงแวะเก็บของรวมทั้งจอดรถทิ้งไว้ เพราะที่พักอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เที่ยวช่วงบ่าย อีกทั้งในเมือง Christchurch ยังมี Central City Shuttle ซึ่งให้บริการฟรีสำหรับเดินทางในเมืองยกเว้นในบริเวณที่มีรถ tram วิ่ง ถ้าต้องการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมือง Christchurch โดยที่ไม่เหนื่อยมาก แนะนำให้ซื้อตั๋ว Tram Tour ซึ่งสามารถหาซื่อได้ที่ i-SITE ทั่วไป หรือสามารถซื้อจากคนขับได้โดยตรง
>> Stained Glass ใน Cathedral
>> บริเวณด้านหน้า Cathedral
>> บริเวณ Cathedral Square จะสังเกตุเห็น The Chalice ที่เป็นรูปกรวยตั้งเด่นเป็นสง่า
>> ตั้งใจจะถ่ายรูป Tram ที่วิ่งในเมืองมาให้ดูกันแต่ได้ออกมาแบบไม่ชัด
รถ Tram จะหยุดตาม stop ที่จัดไว้ทั้งหมด 11 stops โดยถ้าคุณแวะลงตามจุดต่างๆ ก็ไม่น่าจะพลาดที่เที่ยวสำคัญๆ ของเมือง Christchurch แล้ว ที่แรกที่เราแวะคือ Cathedral Square ซึ่งตั้งอยู่ตรงใจกลางของเมือง Christchurch ในบริเวณนี้มีสิ่งก่อสร้างที่มีรูปทรงน่าสนใจที่เรียกว่า The Chalice เป็นรูปทรงกรวยขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Cathedral บริเวณลานกว้างๆ นี้ จะมีร้านขายอาหารรถเข็นอยู่มากมาย ยังไม่นับรวมร้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณรอบๆ ถ้าจะมาเที่ยวที่ Christchurch ควรจะเผื่อเวลาไว้ประมาณ 1 วันเป็นอย่างน้อยถึงจะเดินชมเมืองได้ทั่ว ในบริเวณ Botanical Gardens จะมีนาฬิกาที่ทำจากดอกไม้ แต่เนื่องจากช่วงที่ไปเป็นช่วงที่จะเข้าหน้าหนาว เลยไม่มีดอกไม้ให้เห็นบริเวณนี้ เหลือแต่เข็มชั่วโมงกับเข็มนาที ถ้าใครพอมีเวลาก็สามารถใช้บริการ Punting on the Avon เพื่อนั่งเรือชมแม่น้ำ Avon ก็ดูเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจทีเดียว
>> Punting on the Avon
>> ร้านอาหารที่จำลองเป็นรถ Tram ที่ตั้งอยู่บริเวณ Cathedral Square (อยู่กับที่)
เนื่องจากเราวางแผนจะขับรถไปชมเมือง Akaroa ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Christchurch 1 ชั่วโมงครึ่ง เราจึงมีเวลาเหลือไม่มากที่จะเดินเที่ยวในเมือง Christchurch Akaroa เป็นเมืองตากอากาศเล็กๆ ที่อยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของ Christchurch ห่างออกไปประมาณ 75 km เป็นเมืองที่มีชนชาติฝรั่งเศษและอังกฤษมาตั้งรกราก ซึ่งดูได้จากลักษณะของอาคารบ้านเรือนบริเวณนี้ ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นฝรั่งเศษหลงเหลือ และเนื่องจากช่วงที่ไปเป็นช่วงหน้าหนาว จึงไม่เห็นคนออกมานอนอาบแดดบริเวณชายหาด สำหรับกิจกรรมบริเวณเมืองริมทะเลแห่งนี้มีตั้งแต่ ว่ายน้ำ พายเรือคายัค เล่นเรือใบ ดูปลาโลมาหรือจะเป็นแมวน้ำที่มานอนอาบแดดบริเวณชายฝั่ง เดินเที่ยวเล่นในเมือง เยี่ยมชมบ้านที่มีประวัติเก่าแก่ เช่น Langlois Eleveneaux Cottage หรือจะนั่งรับประทานอาหารที่ Café น่ารักๆ ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลายร้านทีเดียว รูปที่ครอบครัวเราถ่ายบริเวณริมทะเล ออกมาดูเหมือนกับภาพวาดยังไงยังงั้น ท้องฟ้าเป็นสีครามตัดกับพื้นทะเลด้านล่างแถมด้วยวิวของเรือที่จอดอยู่บริเวณนี้ สวยงามเกินบรรยาย สถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้คงไม่พ้นท่าเรือที่มีหลังคาเป็นสีแดงๆ ถ้าใครมาเที่ยว Christchurch ขอแนะนำว่า ควรจะเผื่อเวลาสำหรับมาแวะชมเมือง Akaroa
>> ถ่ายรูปกับป้ายหน้าร้าน Fish & Chips เจ้าอร่อยในเมือง Akaroa
ก่อนกลับไป Christchurch เราแวะรับประทาน Fishes & Chips ร้านดัง ที่มีชื่อว่า 'Akaroa Fish and Chip Shop' ตั้งอยู่ที่ 59 Beach Road ร้านนี้หาไม่ยาก เนื่องจากตั้งอยู่บนถนนเส้นหลัก อีกทั้งมีลูกค้าแวะมาใช้บริการค่อนข้างเยอะ ที่นี่มีปลาให้เลือกหลายชนิด ถ้าใครไม่ทานปลา ก็สามารถเลือกเป็นกุ้งหรือปลาหมึกชุปแป้งทอด แต่ที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาถึง New Zealand นั่นก็คือ หอยแมลงภู่สดๆ นึ่ง รสหวาน อร่อยกว่าที่ขายในเมืองไทยเนื่องจากไม่ได้ใช้หอย Frozen นึกถึงแล้ว ก็อยากกลับไปกินอีกจังเลย
>> ถ่ายรูปกับครอบครัวที่บริเวณริมชายทะเลในเมือง Akaroa
กว่าจะกลับมาถึง Christchurch ก็ค่ำทีเดียว ทุกคนหมดแรงไปตามๆ กัน แต่ก็ยังโชคดีที่ห้องพักของคืนนี้มี Jacuzzi ในห้องด้วย แช่น้ำร้อนในช่วงอากาศหนาวช่วยให้หายเหนื่อยได้จริงๆ ที่พักคืนนี้เป็น Serviced Apartment ที่ตกแต่งห้องได้สวยงามทีเดียว เจ้าของก็ Friendly และให้เอาใจใส่แขกที่มาพักอย่างดี ถ้ากลับไปที่ Christchurch อีกครั้ง ก็คงจะไปพักที่นี่อีกแน่นอน ก่อนเข้านอนคืนนี้ก็ต้องเตรียมทบทวนแผนการเดินทางสำหรับวันรุ่งขึ้นอีกที เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้ เพราะเราจองที่พักไว้ล่วงหน้าหมดแล้วของทั้งทริป ถ้าไปไม่ทันจริงๆ ก็ต้องโทร cancel เป็นที่ๆไป
>> อ่าง Jacuzzi ใน Service Apartment แช่น้ำร้อนแล้วช่วยให้หายเหนื่อยไปได้เยอะ
>> ห้องที่เราพักคืนนี้ ตกแต่งในโทนสีแดง ห้องพักที่นี่จะตกแต่งไม่เหมือนกันเลยซักห้อง เจ้าของจะใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นอีกที่ ที่คิดว่าจะกลับมาพักอีกถ้ามาแวะเมืองนี้
No comments:
Post a Comment