>> ถ่ายรูปกับคุณแม่ที่ Lake Wanaka
>> บริเวณรอบๆ Lake Wanaka จะเห็นต้นเปลี่ยนสี อยู่รอบๆ ทะเลสาบ สีสันสวยงามมาก
>> บริเวณรอบๆ Lake Wanaka
ที่ตั้งของ i-SITE ด้านหลังจะมีสะพานเล็กๆ ยื่นลงไปในน้ำสำหรับไว้ขึ้นเรือ บริเวณรอบทะเลสาบนี้มีวิวสวยๆ ให้เลือกถ่ายรูปมากมาย ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงของต้นไม้กำลังเปลี่ยนสี เลยได้ทั้งวิวบ้านที่อยู่ริมทะเลสาบที่มีต้นไม้เป็น Background อยู่ด้านหลัง
>> Roman Style Toilets ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นรูปวาดสามมิติ ที่ดูเหมือนกับมีคนกำลังนั่งทำธุระอยู่ ซึ่งเค้าจะสร้างเป็นม้านั่งยาวๆ มีหลุมเหมือนกับในรูป สร้างอยู่ติดกับผนัง ซึ่งทำให้ห้องนี้ดูเหมือนจริงมากๆ
>> ถ่ายมาเผื่อใครสนใจอยากทราบรายละเอียดของที่นี่
>> ด้านหน้าของ Puzzling Worldก่อนที่จะออกจากเมือง Wanaka เราก็แวะกันที่ Puzzling World ก่อน เราตัดสินใจไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ เนื่องจากบริเวณที่เราสนใจก็เป็นส่วนที่สามารถเข้าชมได้ฟรีอยู่แล้ว เช่นบริเวณห้องน้ำ (Roman Style Toilets) หรือร้านขายของที่ระลึก อีกอย่างที่เราติดใจที่นี่ก็คือ Muffin น่าเสียดายที่ลองซื้อมาแค่ Blueberry Muffin กับ Chocolate Muffin เท่านั้น แป้ง Muffin นุ่ม อร่อยมากๆ รสก็ไม่หวานเกินไป
>> ป้ายหน้าร้าน Jones's Fruit Stall
>> ผลไม้ยักษ์หน้า City Center เมือง Cromwell
>> ต้นไม้รูปทรงแปลกๆ ในบริเวณของ Puzzling Worldจาก Wanaka ก็ขับรถลงมาทาง HWY-6 ซึ่งจะผ่านเมือง Cromwell ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกผลไม้ และน้ำผึ่ง Manuka โดยจะมีร้านผลไม้หลายร้านอยู่ริม Highway เลย ไม่จำเป็นต้องเลี้ยวเข้ามาในตัวเมือง ยกเว้นว่าอยากจะถ่ายรูปกับผลไม้ขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่หน้า City Center ร้านผลไม้ที่เราแวะซื้อของชื่อ ร้าน Jones’s Fruit Stall มีผลไม้สดๆ ขายหลากหลายชนิด ผลไม้แห้ง Chocolates พวกถั่วประเภทต่างๆ และมุมขาย ice-cream ซึ่งเป็น ice-cream ผลไม้แท้ๆ โดยทางร้านจะให้เราเลือกรส ice-cream แล้วก็ประเภทของผลไม้แช่แข็งที่อยู่ในตู้ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตระกูล berry ต่างๆ Kiwi และผลไม้อื่นๆ ขอแนะนำ ice-cream รส Hokey Pokey ซึ่งก็คือ Vanilla ice-cream ผสมกับคาราเมลที่เป็นชิ้นเล็กๆ อยู่ในเนื้อ ice-cream โดยถ้าชอบรสเปรี้ยวอมหวานให้เลือกผสมกับ Raspberry หรือ Kiwi แต่ถ้าอยากให้รสออกมาหวานหน่อยก็เลือกเป็น Strawberry แทน แฟน ice-cream ห้ามพลาด!
>> บริเวณ Kawarau River ถ่ายจาก Kawarau Bridge
>> อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระโดด Bungy จาก Kawarau Bridge 
>> Bungy's Jump จาก Kawarau Bridge ที่ความสูง 43 เมตร
>> สีของแม่น้ำ ตัดกับสีของต้นไม้บริเวณนั้นดูสวยงามมากๆ
>> Kawarau Bridgeก่อนที่จะถึงตัวเมือง Arrowtown ซึ่งเป็นจุดหมายถัดไป เราแวะกันที่ Kawarau Bridge เพื่อแวะชมสถานที่ที่ใช้กระโดด Bungy (Bungy’s Jump) ที่ถือว่าเป็นที่แรกของโลก โดยผู้ริเริ่มคือ AJ Hackett โดยกระโดดลงมาจาก Kawarau Bridge และเป็นการกระโดดที่ระดับความสูง 43 เมตร ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวแวะมามากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วคาดว่าจะมาแวะชมมากกว่าที่จะมาลองเล่นกิจกรรมนี้ มองลงไปด้านล่างของสะพาน หวาดเสียวมากๆ ขนาดแค่มองดูเท่านั้น วิวบริเวณนี้เป็นอีกแห่งหนึ่งที่น่าแวะชมนอกเหนือจากการมาดู Bungy Jump เนื่องจากจะสีของต้นไม้ที่เปลี่ยนสีจะตัดกับสีของแม่น้ำที่อยู่ด้านล่าง เป็นภาพที่ออกมาสวยงามจริงๆ
>> บริเวณเมือง Arrowtown
>> หน้าร้าน Remarkable Sweet Shop ในเมือง Arrowtown 
>> ร้านค้าน่ารักๆ ในเมือง Arrowtownเมือง Arrowtown เป็นเมืองเหมืองทองเก่าที่สามารถรักษาสภาพดั้งเดิมของเมืองไว้ได้ดีมาก ที่นี่มีชื่อในเรื่องของใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะมีการจัดเทศกาล Arrowtown Autumn Festival ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่เมืองนี้เหมาะแก่การมาเดินเล่นเพราะมีร้านค้าน่ารักๆ เต็ม 2 ข้างทาง รวมทั้งมี Post Office อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งเราสามารถแวะส่ง postcard ได้ด้วย ร้านอาหารก็มีให้เลือกหลายประเภท บังเอิญพี่สาวเห็นร้านขาย Hamburger หน้าตาน่ากิน ก็เลยลองซื้อ Fried Chicken Hamburger with Avocado มาลอง รสชาติอร่อยมาก แต่ต้องเก็บท้องไว้ก่อน เนื่องจากตั้งใจว่าจะแวะรับประทานมื้อกลางวันวันนี้ที่เมือง Queenstown ร้านที่น่าแวะอีกร้านคือ ร้านขนมที่มีชื่อว่า The Remarkable Sweet Shop ซึ่งมีสาขาที่ Queenstown ด้วย ที่ร้านมีขนมหลากหลายประเภทมากๆ แค่เดินผ่านร้านนี้ก็ได้กลิ่นหอมหวานออกมาเลย
>> เรามานั่งทาน Hamburger ที่ม้านั่งในบริเวณนี้ ซึ่งเป็นทางเดียวกับทางไปที่ขึ้น Skyline Gondolaที่เมือง Queenstown เราไปแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ ร้าน Hamburger ชื่อดัง ชื่อร้าน Fergburger (http://www.fergburger.com/) คนแน่นมากๆ ขนาดว่ามีลูกค้าบางส่วนต้องยืนรอรับ order ที่สั่งไว้กันหน้าร้าน ที่นั่งก็มีน้อยมาก Hamburger ที่ร้านนี้มีให้เลือกหลากหลายชนิดซึ่ง Menu ก็จะอธิบายว่า Hamburger แต่ละรายการใส่เครื่องอะไรบ้าง มีทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อไก่ หรือถ้าไม่กินเนื้อสัตว์ ก็สามารถเลือกเป็นเต้าหู้ทอด หรือ falafel patties แทน ขอเตือนว่าขนาดของ Hamburger มันใหญ่มากๆ สำหรับคนเอเซีย ตอนที่สั่ง order ก็สั่งตอนหิวเลยไม่มีใครคิดจะ share กันเลย แถมยังสั่ง size order มาอีก ตอนที่ไป pick up รายการที่สั่งไว้ เริ่มไม่แน่ใจว่านี่คือที่เราสั่งไว้เหรอเนี่ย แต่ก็อร่อยตามที่โฆษณาจริงๆ เนื้อนุ่ม ไม่แห้งเหมือนกับ Hamburger บางร้าน แฟนๆ Hamburger ต้องไม่พลาดแวะลองร้านนี้
เนื่องจากเราวางแผนที่จะกลับมาค้างคืนที่ Queenstown อีกในวันถัดไป วันนี้ก็เลยไม่ได้แวะทำอย่างอื่นนอกจากมาแวะทานอาหารกันเท่านั้น หลังจากผ่านตัวเมือง Queenstown ก็จะขับผ่าน The Remarkables ซึ่งเป็นแนวภูเขาลูกใหญ่ ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นที่ถ่ายทำฉากหนึ่งในเรื่อง Lord of the rings หลังจากนั้นเราก็จะวิ่งไปตาม HWY-94 เพื่อเข้าสู่เมือง Te Anau ซึ่งเป็นจุดพักค้างคืนของวันนี้ วันนี้มาถึงที่พักไม่เย็นมาก เลยมีเวลาไปเดินซื้อของใน Supermarket
ร้านอาหารคืนนี้อยู่ไม่ไกลจาก Supermarket ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไปลองร้าน Steak ที่มีคนแนะนำใน internet ที่ชื่อว่า Settler’s Steak แต่ว่าน่าเสียดายที่ร้านปิด เราก็เลยเข้าไปทานร้านอาหารจีนที่ชื่อ China City แทน ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังกับรสชาติในตอนแรก ปรากฎว่าอร่อยมากๆ ที่เราติดใจกันมากก็คือ Lobster เอาไปผัดกับขิงและต้นหอม (Fried Lobster with Ginger and Scallion) รสชาติ Lobster สุดยอดมากๆ เจ้าของร้านแนะนำว่าเป็นเมนูที่ต้องสั่งเพราะเค้าใช้ Lobster ที่ได้จากทะเลแถบนี้ ซึ่งรสชาติของ Lobster จะต่างจากบริเวณอื่น ซึ่งก็เป็นตามคำแนะนำ อร่อยกว่า Lobster ที่เคยทานมาหลายๆ ที่ อีกอย่างร้านนี้มีฝีมือในการทำอาหารมาก ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัด หรือผัดผักแบบง่ายๆ ก็ทำได้อร่อย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านอาหารจีนอร่อยๆ มาตั้งอยู่ในมืองเล็กๆ อาจเป็นเพราะที่เมืองนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้เป็น Base ในการหยุดพักก่อนจะไปเที่ยวที่ Milford Sound ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาะใต้
เนื่องจากเราวางแผนที่จะกลับมาค้างคืนที่ Queenstown อีกในวันถัดไป วันนี้ก็เลยไม่ได้แวะทำอย่างอื่นนอกจากมาแวะทานอาหารกันเท่านั้น หลังจากผ่านตัวเมือง Queenstown ก็จะขับผ่าน The Remarkables ซึ่งเป็นแนวภูเขาลูกใหญ่ ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นที่ถ่ายทำฉากหนึ่งในเรื่อง Lord of the rings หลังจากนั้นเราก็จะวิ่งไปตาม HWY-94 เพื่อเข้าสู่เมือง Te Anau ซึ่งเป็นจุดพักค้างคืนของวันนี้ วันนี้มาถึงที่พักไม่เย็นมาก เลยมีเวลาไปเดินซื้อของใน Supermarket
ร้านอาหารคืนนี้อยู่ไม่ไกลจาก Supermarket ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไปลองร้าน Steak ที่มีคนแนะนำใน internet ที่ชื่อว่า Settler’s Steak แต่ว่าน่าเสียดายที่ร้านปิด เราก็เลยเข้าไปทานร้านอาหารจีนที่ชื่อ China City แทน ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังกับรสชาติในตอนแรก ปรากฎว่าอร่อยมากๆ ที่เราติดใจกันมากก็คือ Lobster เอาไปผัดกับขิงและต้นหอม (Fried Lobster with Ginger and Scallion) รสชาติ Lobster สุดยอดมากๆ เจ้าของร้านแนะนำว่าเป็นเมนูที่ต้องสั่งเพราะเค้าใช้ Lobster ที่ได้จากทะเลแถบนี้ ซึ่งรสชาติของ Lobster จะต่างจากบริเวณอื่น ซึ่งก็เป็นตามคำแนะนำ อร่อยกว่า Lobster ที่เคยทานมาหลายๆ ที่ อีกอย่างร้านนี้มีฝีมือในการทำอาหารมาก ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัด หรือผัดผักแบบง่ายๆ ก็ทำได้อร่อย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านอาหารจีนอร่อยๆ มาตั้งอยู่ในมืองเล็กๆ อาจเป็นเพราะที่เมืองนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้เป็น Base ในการหยุดพักก่อนจะไปเที่ยวที่ Milford Sound ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาะใต้
No comments:
Post a Comment