รีวิวร้านกุ๊กชม ที่ท่าเรือเทเวศน์

หลังจากได้ยินคนพูดถึงร้านนี้มานานแสนนานแต่ก็ยังไม่เคยได้มีโอกาสไปทานซักที เพราะร้านนี้ไปค่อนข้างลำบากอยู่เหมือนกัน วันนี้ได้โอกาสสบเหมาะ เราเลยนัดกันไปทานที่ร้านกุ๊กชม ขาไปใช้วิธีนั่ง taxi ไป ส่วนขากลับก็เปลี่ยนไปนั่งเรือตรงท่าเรือเทเวศน์ที่อยู่ติดกับร้านเลยกลับมาที่ท่าเรือสี่พระยา แล้วก็ต่อ taxi กลับมาที่ office แถวๆ สามย่าน





















ร้านกุ๊กชมเป็นร้านแบบบ้านๆ ตั้งอยู่ติดกับท่าเรือเทเวศน์เลย หาไม่ยากเพราะมีป้ายเห็นชัดเจน ใครที่อยากมาลองชิมอาหารที่ร้านนี้ แนะนำให้มาก่อนเที่ยง เพราะถ้าเลยเที่ยงไปแล้ว ก็ต้องรอคิวอยู่ซักพักนึงเลย











ปัจจุบันกุ๊กชมไม่ได้ลงมือปรุงอาหารเอง แต่จะมีลูกมือเป็นคนทำหน้าที่อยู่หน้าเตา ส่วนตัวกุ๊กชมเองก็จะคอยเดินทักทายลูกค้าตามโต๊ะ รวมทั้งอาจจะมีไปชิมหรือคอยดูแลความเรียบร้อยรอบๆ ร้าน




















เมนูอาหารที่ร้านนี้มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง  โดยอาหารฝรั่งก็ตั้งชื่อเมนูคล้ายๆ กับที่เสริฟตามโรงแรม ส่วนอาหารไทยก็จะเป็นพวกเมนูกับข้าวทั่วๆ ไป  สำหรับราคานั้นดูเหมือนว่าไม่แพงเลย แต่ต้องมาดูกันอีกทีหลังจากลองชิมรสอาหารไปแล้วว่าคุ้มค่าหรือไม่  สำหรับโต๊ะเราถือว่าสั่งอาหารมาเยอะประมาณนึงไปทานกัน 4 คน สั่งอาหารมา 11 อย่าง น่าจะเยอะกว่าโต๊ะอื่นๆ ที่นั่งทานอยู่ใกล้ๆ กัน  อุตส่าห์ดั้นด้นมาทั้งทีก็ต้องลองสั่งหลายๆ เมนูมาชิม




































เมนูแรก ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง (60 THB) เป็นจานที่ทำออกมาใช้ได้ทีเดียว เพราะเค้าทำซี่โครงออกมาได้เปื่อยนุ่ม  ซอสรสชาติใช้ได้ทีเดียว เราทานกันเปล่าๆ เพราะกลัวอิ่มเร็ว แต่เมนูนี้น่าจะเข้ากันได้ดีกับพวกข้าวสวย  ที่น่าสนใจคือจานนี้มีแก้วมังกรประดับมาด้วย ก็ยังแปลกใจอยู่เหมือนกัน พึ่งเคยเห็น  เท่าที่สังเกตดูอาหารแต่ละจานเค้าจะจัดแต่งมาให้ดูสวยงาม น่าจะเป็นจุดเด่นของร้านกุ๊กชมที่แตกต่างจากร้านอาหารข้างทางทั่วไป




















ข้าวผัดต้มยำกุ้ง หน้าตาดูดีแถมรสชาติก็ปรุงออกมาได้ใช้ได้เช่นเดียวกัน  โดยส่วนตัวคิดว่าร้านกุ๊กชม ทำอาหารไทยออกมาได้ดีกว่าอาหารฝรั่ง เนื่องจากวัตถุดิบอาหารไทยราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับอาหารฝรั่ง  ถ้าใช้วัตถุดิบคุณภาพต่ำมาปรุงอาหารฝรั่ง รสชาติจะไม่เข้มข้นเท่าที่ควร



















สเต็กไก่ซอสตับห่าน (90 THB) หน้าตาดูดีเมื่อเทียบกับราคาแม้ว่าจะมีเศษตับห่านโรยหน้ามาเล็กน้อย น่าจะเป็นตับห่านที่คุณภาพไม่สูงเพราะไม่ได้รสชาติของตับห่านซักเท่าไหร่ แต่เนื้อไก่ก็ทำออกมาได้นุ่มดี




















ปลากระพงราดซอส saffron (90 THB) จานนี้ไม่น่าจะเรียก saffron เพราะไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย เหมือนสเต็กปลาทั่วๆ ไปที่ขายตาม food court รสชาติธรรมดามากๆ




















สปาเก็ตตี้ไข่กุ้ง (60 THB) ที่ร้านจะนำเส้นสปาเก็ตตี้ไปผัดกับน้ำมัน ที่ไม่น่าจะใช่ olive oil และกุ้งสด  พอสุกแล้วก่อนเสริฟก็หยอดหน้าด้วยไข่กุ้ง  จานนี้ก็ธรรมดาอีกเช่นกัน



















หอยนางรมอบซอสฝรั่งเศษ (80 THB) เป็นเมนูที่ไม่แนะนำให้สั่งเพราะแทบจะหาหอยไม่เจอเลย  ขนาดของหอยนางรมน่าจะเป็นขนาดเดียวกับหอยกะพง มันเล็กมากๆ แถมผักที่ใส่มาด้วยก็ไม่ค่อยเข้ากันกับซอสซักเท่าไหร่  ไม่แน่ใจว่าเพราะวัตถุดิบไม่ดีหรือเปล่ารสเลยออกมาธรรมดามากๆ จานนี้ค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับขนาดของหอยนางรม  ส่วนเมนูอีกรายการที่รสคล้ายๆ กันก็คือ ผักโขมอบชีส ที่ร้านใส่ชีสน้อยไป แถมผักก็ยังต้มออกมาไม่ได้ที่ซักเท่าไหร่ เลยปรุงออกมาได้ธรรมดามากๆ





































เราลองสั่งสปาเก็ตตี้แบบอื่นมาลองดูทาน สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (70 THB) รสชาติเหมือนทานซุปครีมเห็ด คือซอสมันจืดและออกมาไม่ข้นเท่าที่ควร รสชาติไม่อร่อยซักเท่าไหร่  สปาเก็ตตี้อีกจานที่ลองก็คือ สปาเก็ตตี้ขี้เมา (60 THB) เครื่องที่ใส่จะมีเน้นเป็นหมึกซะส่วนใหญ่ รสออกเค็มๆ ไม่ค่อยมีรสชาติอื่นในจานนี้






















หลังจากที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับอาหารฝรั่งซักเท่าไหร่ ก็เลยเปลี่ยนไปสั่งอาหารไทยแทน เพราะรู้สึกว่าร้านนี้เค้าทำอาหารไทยได้ดีกว่าอาหารฝรั่ง  น้ำตกไก่ย่าง รสเปรี้ยวใช้ได้ แต่ไม่เผ็ด เหมาะกับคนไม่ชอบทานเผ็ด และอีกจานอาหารพื้นๆ ข้าวคะน้าปลาเค็ม รสชาติออกมาดี ใช้ได้



















โดยรวมอาหารไทยรสชาติใช้ได้ แต่อาหารฝรั่งรสออกธรรมดา ถึงแม้ว่าราคาดูเหมือนถูกเนื่องจากเป็นร้านริมทาง แต่ถ้าเทียบกับวัตถุดิบที่ใช้ ถือว่าแพงไปค่ะ



















สำหรับการเดินทางกลับเราใช้วิธีขึ้นเรือด่วนที่ท่าเทเวศน์ที่อยู่ติดกับร้านเลย  อากาศบนเรือเย็นสบาย แถมได้ดูวิวสวยๆ ข้างทางอีกด้วย





















=================================
Restaurant Name: Kook-Chom
Location: Thewet Pier, Bangkok
Price: ~100-200 THB/Person
=================================

No comments:

Post a Comment