ร้านนี้เค้าไม่นิยมรับ order เพิ่ม เพราะฉะนั้นทางทีดีให้สั่งไปทีเดียวในรอบแรกนะคะ
เย็นตาโฟ เจ ซี (Yenta 4 J.C) สาขาสีลม
ร้านนี้เค้าไม่นิยมรับ order เพิ่ม เพราะฉะนั้นทางทีดีให้สั่งไปทีเดียวในรอบแรกนะคะ
ขนมหวานและพายอร่อยๆ ที่ร้านปทุมเค๊ก
ร้านอาหารเก่าแก่แถวสุขุมวิท ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ถ้าเข้ามาจากถนนสุขุมวิท ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ร้านมีที่จอดรถให้สำหรับลูกค้าบริเวณด้านใน ปกติเรามักจะมาแวะซื้อขนมพวกพายทั้งหลาย ถ้าวันไหนอยากทานอะไรง่ายๆ ก็จะแวะมานั่งทานที่ร้านนี้ อาหารที่ร้านนี้อร่อย แถมยังมีให้เลือกมากมาย เรามักจะสั่งเป็นพวกอาหารจานเดียว มาที่ไรก็มักจะสั่งเมนูเดิมๆ เช่น เส้นหมี่ผัดพริกสดปลาสลิด วันนี้ลองสั่งข้าวผัดคะน้าเนื้อเค็ม ก็ทำออกมารสใช้ได้แต่ไม่ได้ถึงกับอร่อยมาก หน้าตาคล้ายๆ ข้าวผัดซีอิ้วใส่เนื้อเค็มประมาณนั้น
ของหวานที่เราชอบมากของร้านนี้ น้อยหน่านมสด (40 THB) ทำออกมาได้รสถูกใจ หวานๆ มันๆ มีรสเค็มแทรกเล็กน้อย เค้าจะทำออกมาคล้ายๆ กับไอศครีมน้อยหน่า เหมาะกับเป็นของหวานช่วงอากาศร้อน จริงๆ แล้วตัวเองไม่ทานน้อยหน่า แต่พอมาทานที่ร้านนี้ถึงกับติดใจเมนูนี้
ขนมประเภทพายทั้งหลาย ที่เราชอบก็จะมีพายหมูสับกับพายไส้กรอก ชิ้นละ 12 THB เท่านั้น แถมพายไส้กรอกร้านนี้เค้าใช้ไส้กรอกคุณภาพดี ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอไส้กรอกแป้งเหมือนบางร้าน
กุ้งทอดเกลือ ประเสริฐโภชนา
ร้านกุ่ยหมงสีของน้ำทอดกุ้งจะดูมีมันกุ้งเยอะกว่า แถมกลิ่นจะหอมกว่าที่ร้านนี้ แต่กุ้งทอดเกลือของที่นี่ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ วันก่อนอ่านเจอวิธีทำเมนูนี้ใน magazine เลยอยากนำมา share ที่นี่เผื่อใครอยากจะลองไปทำทานดู ถ้าออกมาอร่อย ช่วยบอกด้วยนะคะ จะได้นำไปทำบ้างถ้ามีโอกาส
เครื่องปรุง:
กุ้งแม่น้ำ 1 kg
วิธีทำ:
นำกุ้งลงไปทอดในน้ำมันร้อนจัดและปรุงรส อย่าให้กุ้งสุกเกินไป
อ่านแล้วดูเหมือนไม่ยาก แต่ที่ยากน่าจะเป็นวิธีการแกะกุ้งและก้าม รวมทั้งการทำน้ำจิ้มด้วย เพราะจานนี้ต้องทานกับน้ำจิ้ม seafood รสเด็ด ถึงจะอร่อยยิ่งขึ้น
ข้าวหมกไก่สยาม สนามบินน้ำ
มาที่นี่ครั้งแรกแนะนำให้สั่ง ข้าวหมกไก่ (40 THB) ที่ร้านนี้เค้าใช้ส่วนสะโพกไก่มาทำ ข้าวหุงได้สวยน่าทาน แถมไก่ก็นุ่ม ไม่เหนียวเลย น้ำจิ้มของร้านนี้เค้าออกหวานเล็กน้อยแต่ก็เข้ากันดีกับข้าวหมกไก่ สำหรับคนชอบทานเนื้อ ที่ร้านนี้เค้าก็มีข้าวหมกเนื้อ (55 THB) ส่วนตัวเคยสั่งทานครั้งนึง จำได้ว่าเนื้อไม่เหนียวเลย
ซุปที่ร้านนี้เค้ามีให้เลือกเยอะมาก ที่ดังสุดเห็นจะเป็น ซุปปลาหมึก (55 THB) ที่ยังไม่มีโอกาสได้ทานเพราะไปช้าก็หมด มารอบนี้เค้าก็ไม่ได้ทำเพราะของไม่มาส่ง ที่เคยทานก็มี ซุปเนื้อ (55 THB) และซุปไก่ (35 THB) อร่อยทั้งคู่ ซุปร้านนี้ รสจัด เป็นแบบใส่พริกและหอมแดงปริมาณเยอะ ถ้าไม่ทานเผ็ดก็บอกที่ร้านได้
============================================
Krua Sa Ros Jad ครัวสา รสจัด
สำหรับคนที่ชอบทานวุ้นเส้นผัดไข่ แนะนำให้ลองทานวุ้นเส้นผัดเนื้อปู (160 THB) เพราะของที่ร้านนี้เค้าใช้เนื้อปูก้อนๆ โรยมาด้านหน้าด้วย
อาหารจำพวกเนื้อปลากราย ก็เป็นรายการที่เจ้าของร้านภูมิใจนำเสนอ เพราะของที่นี่เค้าโฆษณาว่าเค้าขูดเนื้อปลากรายเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่สด เราเลยลองสั่งมาลองทั้งทอดมันปลากราย และลูกชิ้นปลากรายผัดเขียวหวาน (190 THB) ปรากฎว่าเนื้อปลากรายของร้านนี้เค้าเหนียวหนึบสมคำโฆษณา อร่อยทีเดียว
ที่ติดใจมากๆ ของร้านนี้คือ กุ้งทอดกระเทียม (กุ้งตัวละ 300 THB) และ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม (S: 380) ทั้งสองเมนูนี้ใช้แป้งชุปทอดสูตรเดียวกัน แป้งด้านนอกคล้ายๆ ผสมกับเกล็ดขนมปังป่นละเอียดลงไปด้วย ร้านนี้เค้าทอดออกมาได้ดีมากๆ ผิวด้านนอกกรอบเล็กน้อย แต่เนื้อด้านใน ยังนุ่มอยู่เลย ไม่แข็งแม้แต่เล็กน้อย
ทั้งสองจานนี้เค้าจะโรยกระเทียมเจียวทอดกรอบมาด้วย ทานคู่กับน้ำจิ้มทะเลของร้าน สุดยอดทีเดียว นอกจากอาหารด้านบน รายการอื่นๆ ที่เราสั่งมาทานก็มี เนื้อปูผัดผงกะหรี่ (480 THB), หมูสะเต๊ะ (120 THB), ตำลึงหมูสับ (90 THB)
ทานอาหารคาวเสร็จ อย่าลืมสั่งลูกตาลลอยแก้ว (40 THB) มาทาน เพราะลูกตาลของที่ร้านนี้เค้าไม่เหมือนที่เคยทานมาที่ไหนเลย เนื้อลูกตาลอ่อนนุ่มมากๆ จะทานเปล่าๆ หรือจะราดมาบนไอศครีมก็อร่อยไม่แพ้กัน ใครที่มาทานที่ร้านนี้ถ้าจ่ายเงินสดเค้าลดให้ทันทีเลย 10% นะคะ
Jumbo river prawn@Prasert Pochana
เราไปแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านประเสริฐโภชนาหลังจากไปแวะปล่อยโคที่โรงฆ่าสัตว์ปทุมธานี ซึ่งถ้าใครไปทำบุญแถวๆ นั้นสามารถมาร้านนี้ได้ไม่ยากเลย หลังจากเลี้ยวซ้ายออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ปทุมธานี ให้เลี้ยวขวาที่สามแยกแรกที่มีวัดอยู่ด้านซ้ายมือ จำชื่อวัดไม่ได้ หลังจากนั้นก็ขับตรงมา จะเห็นป้ายร้านอยู่ทางขวามือ วันนี้โทรไปจองกุ้งใหญ่ที่ร้าน เค้าก็เลยเก็บขนาดใหญ่ไว้ให้ 2 ตัว ไม่ได้ถามราคาว่าแต่ละ size ต่างกันเท่าไหร่ แต่คิดว่าราคาน่าจะไม่เท่ากันระหว่างขนาดเล็กกับขนาดใหญ่
ลองถ่ายรูปเทียบกับโทรศัพท์มาให้ดู จะเห็นว่ากุ้งตัวละ 7 ขีด ขนาดใหญ่จริงๆ กุ้งเผาของร้านนี้เค้าย่างมาสุกกำลังดี เอามันกุ้งคลุกกับข้าว แล้วเหยาะด้วยน้ำจิ้มเล็กน้อย รสชาติสุดยอดเลย
เมนูอื่นๆ ที่เรามักจะสั่งทานก็จะมี ทอดมันปลากราย (150 THB) ที่มาจานใหญ่มาก ทุกอย่างที่เห็นในรูปด้านล่างถูกจิ้มทานไปแล้วทั้งสิ้น ภาพมันเลยออกมาดูแหว่งๆ ตอนที่เสริฟครั้งแรกอาหารทุกจาน ให้มาเยอะทีเดียว ส่วนเมนูผัดผักทั้งหลาย เค้าก็จะเอาก้ามกุ้งที่ได้มาจากกุ้งเผาของเราลงไปผัดด้วย แต่ละก้ามอวบๆ ทั้งนั้น แต่ไม่มีให้ดูในรูปนะคะเพราะทานไปหมดแล้ว ถ่ายรูปมาไม่ทัน อีกเมนูที่เราชอบมากๆ นอกจากกุ้งเผาก็คือ ต้มยำกุ้ง (180 THB) ที่ปรุงรสมาได้แบบรสจัด แต่ไม่เผ็ด อร่อยทีเดียว
ราคากุ้งที่ร้านนี้อาจจะสูงกว่าที่อื่น แต่รับรองว่าคุ้มกับราคาที่จ่ายไป
Muthi Maya Review:Forest Pool Villa
สำหรับทางเข้า resort จะเข้าทางเดียวกับ Kirimaya แต่อยู่ค่อนข้างลึกพอสมควร น่าจะประมาณ 5 นาทีจากถนนใหญ่
บ้านแต่ละหลังมีบริเวณที่ใหญ่พอสมควรเลย ด้านในตัวบ้านมีห้องทานข้าว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ 2 ห้องและห้องนอน
ห้องน้ำที่ติดกับห้องนอนมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ เป็นอ่าง Jacuzzi และมีส่วนแยกสำหรับ shower ด้วย เช่นเดียวกับห้องน้ำขนาดเล็กที่มีที่อาบน้ำให้ เพราะฉะนั้นถ้าไปพักกัน 2 คนก็สามารถแยกห้องน้ำกันใช้ได้เลย สะดวกมากๆ นอกจากนั้น ทีวี ก็มี 2 เครื่องในห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ไม่ต้องแย่งช่องกันดู เผื่ออยากดูกันคนละช่อง
ที่เราเลือกมาพักที่นี่ ส่วนนึงคือ สระน้ำที่นี่ขนาดค่อนข้างใหญ่กว่า pool villa หลายๆ ที่ แม้ว่าตรงบริเวณสระว่ายน้ำ อาจจะมีความเป็นส่วนตัวน้อยไปนิด คือข้างหลังบ้านจะติดกับสนามกอล์ฟเลย สระที่นี่เค้าสร้างเป็นแบบ infinity pool เราชอบตรงบริเวณที่นั่งเล่นด้านนอก เพราะสามารถดูวิวสนามกอล์ฟไปด้วยได้ แต่พวกมด แมลงค่อนข้างเยอะไปนิด
สำหรับลูกค้าที่มาพักที่นี่ เค้าจะมีเสริฟ afternoon tea ช่วงบ่าย 2 ถึง 4 โมงเย็น โดยเราสามารถเลือกพวกเครื่องดื่มที่เป็น non-alcoholic ได้ตามใจชอบ ส่วนของว่างที่เสริฟก็จะเป็นพวก sandwiches, scone, canapes, and cakes เมนูเหมือนกันทั้ง 2 วัน จริงๆ แล้วน่าจะเปลี่ยนเมนูบ้างเพราะถ้าเราพักที่นี่มากกว่า 2 คืนคงต้องเบื่อแน่ๆ ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้ทานของว่างกันซักเท่าไหร่เพราะกว่าจะทานข้าวเที่ยงก็บ่ายแล้ว ถ้าเสริฟเป็น pre-dinner คงจะ happy กว่านี้
Breakfast ที่นี่เสริฟที่ห้องอาหาร Myth ซึ่งวิวสวยมาก อาหารมีให้เลือกสั่งจากเมนู นอกเหนือจาก buffet line ติดใจตรงเมนูไข่มีให้เลือกหลายแบบมากๆ เมนูไข่ที่พึ่งเคยลองสั่งครั้งแรกคือ Egg Cocotte ที่จะเสริฟมาคู่กับ prawn and mushroom bolognaise
โดยรวม resort นี้เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ เงียบ สงบ แถมคนไม่เยอะดีด้วย
Vincotto@Gran Monte (Khao Yai)
เมนูแรก Smoked duck breast salad (190 THB) จัดมาหน้าตาน่าทาน น้ำสลัดของที่ร้านนี้เค้าใช้เป็นน้ำสลัดแบบใส ปรุงรสกำลังเลย ชอบตรงที่ไม่หวานหรือเปรี้ยวจนเกินไป อกเป็ดรมควัน หอม อร่อย เข้ากันได้ดีกับองุ่น รสหวาน
เมนูถัดมา Crabmeat au cratin (370 THB) เนื้อปูอบมากับชีสในกระดอง พร้อมกับผักโขมและมันฝรั่งชิ้นโต จริงๆ แล้วถ้าทานคนเดียวคงจะกำลังดี แต่ถ้าแบ่งกันทาน สงสัยว่ากระดองเดียวจะไม่พอ เพราะเค้าปรุงออกมาได้อร่อยค่ะ อย่าลืมบีบมะนาวที่ให้มาลงไปด้วย จะช่วยทำให้จานนี้ไม่เลี่ยนเลย
เมนู highlight ที่ตั้งใจมาทานโดยเฉพาะเลย Angus tenderloin topped with foie gras (1250 THB) เป็นเมนูที่ราคาแพงที่สุดของร้านนี้เลย ตอนแรกจะสั่งรายการที่ถูกลงมาหน่อย แต่เห็นว่าคงไม่ได้ขับรถมากินกันบ่อยๆ ก็เลยต้องลองดูซักนิด ทานไปคำแรก อร่อยมากๆ เลย เค้าปรุงรสของซอสได้ดี แถม steak ก็ cook ออกมาได้อย่างที่ต้องการเลย เนื้อนุ่มๆ เข้ากันได้ดีกับ foie gras
ทานมื้อหลักเสร็จแล้ว อย่าลืมเก็บท้องไว้สำหรับของหวาน พายองุ่น (95 THB) ชนิดขนาดกำลังดี แป้งพายร่วนๆ กรอบๆ เข้ากันดีกับครีมชีสรสเปรี้ยวและองุ่นหวานๆ อร่อยจนอยากซื้อกลับ แต่ทางร้านเค้าไม่แนะนำ ถ้าต้องเดินทางไปไกล กว่าจะถึงที่พัก หน้าพายมันจะเละซะก่อน
โดยรวมๆ อาหารที่ร้านนี้อร่อย แม้ว่าราคาอาจจะสูงไปซักนิด ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน
Shintaro@Four Seasons Hotel Bangkok
เมนูแรก Spicy tuna tempura roll (490 THB) ใส้ด้านในเป็น tuna ปรุงรสออกเผ็ดเล็กน้อย หลังจากที่ roll เสร็จเค้าจะเอาไปชุปในแป้ง tempura ก่อนจะไปทอดในน้ำมันร้อนจัด แป้ง tempura ด้านนอกบางกรอบดีมาก อีกอย่างเครื่องด้านในก็ยังดิบอยู่ อร่อยดีค่ะ
เมนูถัดมาเป็น special menu ของวันนี้ Hokkai Avocado Sushi (650 THB) โดยเครื่องด้านในจะมีพวกของทะเลสดหลายๆ อย่าง ก่อนนำมา roll ด้วย avocado ด้านนอกแล้วหยอดหน้าด้วย ikura อร่อยจริงๆ เลย
ต่อมาเราสั่งเป็น signature dish ของที่นี่ Sushi Pizza (410 THB) ซึ่งของที่ร้านนี้เค้าก็จะทำไม่เหมือนกับร้านอื่น คือเค้าจะนำชีสโปะไปบนหน้า sushi ก่อนที่จะใช้ความร้อน ทำให้ชีสละลาย รสชาติดีจริงๆ ด้านล่างเค้าจะมีเหมือนผงสาหร่ายรสเผ็ดให้ทานคู่กัน เดาว่าจะได้ไม่เลี่ยน เขียนถึงแล้วก็อยากกลับไปทานอีก
หลังจากทาน roll กันเสร็จรู้สึกยังไม่อื่มเท่าไหร่ เลยต้องตบท้ายด้วยของหนัก เราสั่งเป็น chirashidon (700 THB) เสริฟมาพร้อมกับน้ำซุป เมนูนี้ให้ปลาดิบมาเยอะที่เดียว คุ้มมากๆ