วันนี้ไปทานข้าวที่บ้านคุณป้า ซึ่งทำอาหารได้อร่อยมากๆ เลยอยากจะนำมาเล่าให้ฟัง จานหลักของวันนี้คือขนมจีน ซึ่งมีทั้ง 2 แบบให้เลือก คือขนมจีนซาวน้ำและขนมจีนแกงเขียวหวานเนื้อโคขุน ก่อนอื่นเราเริ่มต้นมื้อด้วยของทานเล่นกันก่อน ปีกไก่ทอดกรอบ ทอดได้เก่งจริงๆ ขนาดตั้งทิ้งไว้ซักพักแล้ว ก็ยังกรอบอยู่ จานนี้น่าจะเป็นของชอบของเด็กๆ (และผู้ใหญ่ด้วย) เนื่องจากทานได้ง่าย การเลาะกระดูกปีกไก่แบบนี้ต้องอาศัยความอดทนพอสมควร แต่เวลาทอดออกมาแล้วมันจะดูสวยงามกว่าแบบทีไม่ได้เลาะกระดูก
ยำวุ้นเส้นสูตรโบราณ เป็นยำวุ้นเส้นแบบที่ไม่เคยทานที่อื่นมาก่อน เนื่องจากน้ำยำทำมาจากน้ำมะขามคั้นสดๆ ซึ่งจะให้รสชาติที่อร่อยกว่าการใช้น้ำมะนาว เครื่องที่คลุกมากับวุ้นเส้น ไม่ว่าจะเป็น ถั่วลิสง หอมแดง กุ้งแห้ง ก็ต้องคั่วกันใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้หอมกว่าประเภทที่ทำทิ้งไว้นานแล้ว อร่อยมากๆ เลยค่ะ อยากจะไปลองทำดูบ้างแต่ดูแล้วน่าจะยากทีเดียวกว่าจะทำออกมาได้รสดีขนาดนี้ จานนี้ทานคู่กับผักกาดแก้วสดๆ เข้ากันได้ดีเลยค่ะ
คราวนี้มาลองดูเครื่องของขนมจีนซาวน้ำกันบ้าง...
ขนมจีนซาวน้ำ เป็นอาหารโบราณที่หาทานได้ยากเนื่องจากวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยากกว่าขนมจีนแบบอื่นๆ อีกทั้งเครื่องที่ทานคู่กันก็มีหลายอย่างทีเดียว บางที่เค้าก็จะนิยมใส่ลูกชิ้นปลาลงไปด้วย สำหรับขนมจีนซาวน้ำที่คุณป้าทำ จะใช้กะทิคั้นสดที่ไม่ได้มีลูกชิ้นปลาใส่มาด้วย ข้อดีก็คือมันจะไม่มีกลิ่นคาวของลูกชิ้น
เครื่องเคียงที่ทานคู่กับขนมจีนก็จะมีกุ้งแห้งคั่วป่น พริกแห้งทอด น้ำกะทิคั้นสด น้ำปรุงรสซึ่งเคี่ยวระหว่างน้ำปลากับน้ำตาลปีป พริกขี้หนูสด น้ำตาลทราย และที่ขาดไม่ได้ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญคือ น้ำราดขนมจีนซึ่งจะมีสับปะรด ขิงและกระเทียมสด ทั้งหมดนี้ปรุงมาด้วยกันเลยซึ่งจะทำให้อร่อยมากกว่าแยกกันมาเป็นอย่างๆ เหมือนที่ขายตามร้านทั่วไป
ดูหน้าตากันใกล้ๆ ว่าน่าทานขนาดไหน เวลารับประทานเราก็จะตักขนมจีน โรยด้วยกุ้งแห้งป่น และเครื่องเคียงอื่นๆ แล้วแต่ความชอบ ถ้าไม่ชอบเผ็ดก็ไม่ต้องใส่พริก แล้วราดน้ำสับปะรด ตามด้วยน้ำกะทิและน้ำปรุงรส
เป็นอาหารที่คนไทยสมัยก่อนนิยมทานช่วงหน้าร้อน เช่นเดียวกับข้าวแช่ การทานขนมจีนแบบนี้น่าจะอ้วนน้อยกว่าแกงกะทิอื่นๆ
แกงเขียวหวานเนื้อโคขุน ซึ่งเนื้อที่ใช้จะนุ่มกว่าที่ขายตามร้านอาหารทั่วไป เนื้อหั่นมาชิ้นใหญ่ ไม่มีความเหนียวแม้แต่น้อย เครื่องแกงของคุณป้าทำเอง เพราะฉะนั้นจะเข้มข้นและหอมมากๆ รสของแกงเข้มข้น แต่ไม่เผ็ดจัด เหมาะกับทานกับขนมจีน อร่อยมากๆ ค่ะ
ปลาตะเพียนต้มเค็ม เป็นอีกเมนูที่ทำได้ยากเนื่องจากปลาตะเพียนเป็นปลาที่มีกลิ่นและก้างเยอะ แต่จานนี้ทำออกมาได้ดีมากๆ เช่นกัน เกล็ดปลายังมีความกรอบ แต่เนื้อข้างในนุ่มมาก น้ำปรุงรสก็อร่อย ซึ่งจะไม่เหมือนกับที่ขายตามร้านข้างนอก เพราะบางร้านเค้าจะต้มปลาซ้ำไปซ้ำมา ถ้าขายไม่หมด ซึ่งก็จะทำให้สีของน้ำที่ต้มกับปลาตะเพียนเป็นสีเข้มขึ้น ซึ่งการทำปลาตะเพียนต้มเค็มที่ดีน้ำจะต้องออกใสและไม่ขุ่น
ปิดท้ายด้วย strawberries ลอยแก้ว หวานเย็นชื่นใจ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเลยถ่ายรูปน้องน้ำหวานมาแทน น่ารักมากๆ เลย ทำให้เราอยากได้ Siberian Husky มาเลี้ยงที่บ้านบ้าง
==========================================
No comments:
Post a Comment