Travel and Cuisines: Villa Khao Phaengma Review: วิลล่าเขาแผงม้า

Villa Khao Phaengma อยู่บริเวณทางขึ้นเขาแผงม้า ซึ่งเป็นต้นๆ ทางของบริเวณวังน้ำเขียวถ้ามาจากปากช่อง ซึ่งน่าจะใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ถ้าจะมาเที่ยวที่วังน้ำเขียวอยู่แล้วก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากราคาไม่แพงแต่ถ้าจะเที่ยวบริเวณเขาใหญ่เป็นหลักก็น่าจะพักแถบนั้นน่าจะดีกว่า อีกอย่าง resort แถวเขาใหญ่น่าจะมีให้เลือกมากมาย เรามาถึงที่พักเป็นเวลามืดแล้ว ซึ่งทำให้ resort นี้ดูสวยและตามความเห็นแล้วน่าจะดูดีกว่าตอนกลางวัน resort นี้น่าจะอยูประมาณ 2 ดาวครึ่งถึง 3 ดาวครึ่งขึ้นอยู่กับสภาพห้องพัก

การตกแต่งเป็นแบบธรรมชาติ ในรูปแบบ balinese style ซึ่งห้องน้ำของที่พักแบบนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบบ outdoor ห้องพักที่นี่มีหลายแบบให้เลือก สำหรับคนที่อยากมาพักที่นี่จริงๆ ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้เลือกห้องพักที่ไม่ใช่ superior ที่ราคาถูกสุด ยอมจ่ายแพงขึ้นอีกนิด เช่น premier deluxe เป็นต้น ห้องพักน่าจะดูดีขึ้นมาอีกประมาณ 40% ทีเดียว

เนื่องจากครั้งนี้มาเที่ยวกับที่บริษัทซึ่งคาดว่าน่าจะมีงบจำกัด เราก็เลยเลือกห้องพักที่ราคาถูกที่สุด นั่นก็คือ superior นั่นเอง

นี่คือบ้านที่เราจะพักกันคืนนี้...

บริเวณระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งน่าจะเหมาะกับการดูดาวตอนกลางคืน แต่น่าเสียดายที่แถวๆ นี้มักจะมีน้องหมามาอาศัยนอนก็เลยอดใช้ไป

เตียงนอนที่ดูเหมือนจะสวยดี แต่ตอนกลางคืนผ้าที่แขวนอยู่ด้านบนจะปัดไปมาตามแรงของแอร์ ซึ่งอาจทำให้นอนหลับได้ลำบากนิดนึง เพราะต้องคอยปัดไปปัดมา

ห้องนี้ราคาถูกสุด ก็เลยมีขนาดค่อนข้างเล็ก ทีวีเป็นช่อง basic ในห้องไม่มีตู้เสื้อผ้าให้ แต่มีไม้แขวนให้ 2-3 อัน กับราวตากเสื้อ

คราวนี้มาดูห้องน้ำกันบ้าง ซึ่งไม่รู้จะให้คะแนนอย่างไรดี เพราะห้องน้ำน่าจะอยู่ที่ 1 ดาว เข้าใจว่าพนักงานที่นี่มีน้อย เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ได้ทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน เราก็อาจจะเห็นซองของใช้ที่ถูกฉีกเอาของด้านในออกไปแล้วแต่ยังทิ้งซองไว้อยู่วางไว้ให้ดูต่างหน้า

เครื่องทำน้ำอุ่น ยังคงใช้ gas ซึ่งน่ากลัวทีเดียว อีกอย่างมันจะร้อนช้าและปรับ temperature ลำบากมากๆ

ที่อาบน้ำตอนกลางคืนน่ากลัวมากๆ อีกอย่างเป็นห้องแบบ outdoor เราก็จะต้องคอยระวังว่าจะมีตัวอะไรโผล่มาหรือเปล่า และท่อไม้ไผ่ที่ดูไม่เหมือนท่อไม้ไผ่ตอนกลางคืน ทำให้น้ำที่ตกลงมาแรงพอสมควร ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ค่อยอยากใช้ห้องน้ำที่นี่เลย

ตื่นมาตอนเช้ามาเข้าห้องน้ำก็จะเห็นฝูงมดเต็มพื้นเลย รวมทั้งตั๊กแตนที่จะคอยเกาะตามอ่างน้ำหรือพื้นห้องน้ำ ก็ต้องคอยระวังดีๆ ว่าจะไม่ไปเหยียบโดน

สรุปแล้วไม่ประทับใจห้องน้ำของที่ resort นี้เลย เราเปลี่ยนไปดูเรื่องอาหารของที่นี่กันดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง

นี่คือที่ๆ เราจะทาน dinner กัน เป็นศาลาส่วนตัว นั่งได้ถึง 10 คน ที่นั่งค่อนข้างกว้างและมีเบาะกับหมอนให้ด้วย

กลุ่มเราขอให้ทาง resort จัดอาหารให้รวมทั้งขอให้มี Bar-B-Q ด้วย ซึ่งราคาทั้งมื้อไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับปริมาณอาหาร ข้อควรระวังถ้าคิดจะมาทานอาหารที่นี่ อย่าสั่งอาหารจำนวนเท่ากับหรือมากกว่าจำนวนคนที่ทานเพราะอาหารที่นี่จานใหญ่มากๆ

จานนี้น่าจะเป็นไส้กรอกอีสาน ซึ่งน่าจะทำรอไว้นานพอสมควรเพราะค่อนข้างเย็นชืด รสชาติธรรมดาถ้าทานเปล่าๆ น่าจะเหมาะกับนำไปปรุงอาหารอย่างอื่นมากกว่า

จานนี้ไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลย หอยลายอบชีสและขนมปังกระเทียม ไม่มีรสชาติของชีสแม้แต่นิดเดียว อีกอย่างหอยลายไม่ควรจะเอามาทาบนขนมปังเพราะมันจะทำให้ขนมปังไม่กรอบ จริงๆ แล้วรสไม่ได้แย่มากแต่ผิดพลาดอย่างมากสำหรับวิธีเสริฟ

มันฝรั่งทอด ซึ่งคิดว่าน่าจะอร่อยรองมาจาก spaghetti ผัด

จานนี้คือ ลาบปลาช่อนทอด ซึ่งอาจจะทานลำบากนิดนึงเพราะต้องระวังก้าง เนื้อปลาช่อนถูกยีมาจนเละเกินไป รสเผ็ดมาก คนที่ชอบทานเผ็ดน่าจะถูกใจ

จานเด็ดสุดของมื้อนี้ spaghetti ผัดสาวอีสาน เส้นลวกมาแบบกำลังดีเลย รสเข้มข้น หอมเครื่องเทศและใบโหระพา เข้ากันได้ดีกับไส้กรอกอีสาน จานนี้ให้ 8/10 เลย นอกจากนี้ก็ยังมี Bar-B-Q อีกซึ่งสั่งไปถึง 30 ไม้สงสัยว่าคนสั่งจะหิวตอนสั่งอาหาร และยังมีอาหารอื่นๆ อีกมากที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา Bar-B-Q ของที่นี่ แนะนำให้สั่งเป็นเนื้อไก่ ซึ่งน่าจะดีกว่าเนื้อหมู หมักได้เข้าเนื้อและเนื้อนุ่ม ไม่เหนียวเลย จริงๆ แล้วอาหารที่ควรจะทานเมื่อมาพักแถบนี้ น่าจะเป็นพวกผักและเห็ด ซึ่งจะมีฟาร์มอยู่หลายที่ในบริเวณวังน้ำเขียว แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มเราเน้นทานเนื้อสัตว์เป็นหลักก็เลยไม่ค่อยมีจานผักให้ชมกัน