=================================
Paradise Hotel at Shangri-La
Paradise Hotel ที่ Shangri-La นับว่าเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างสะดวก สบาย สำหรับบริเวณนี้ เนื่องจากอยู่ในบริเวณตัวเมือง ทำให้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ค่อนข้างสะดวก ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ
Lobby โรงแรมนี้ตกแต่งได้น่าสนใจ ที่โรงแรมมีสระว่ายน้ำ indoor ด้วย แต่ตอนที่ไปก็ไม่เห็นมีใครใช้บริการซักเท่าไหร่ น่าจะเพราะอากาศที่นี่หนาวเป็นส่วนใหญ่
อาหารเช้าที่โรงแรมนี้มีให้เลือกเยอะมากๆ มีทั้งอาหารจีน อาหารท้องถิ่นและอาหารฝรั่งให้เลือก ส่วนอาหารเย็นก็เสริฟที่ห้องอาหารเดียวกันกับที่เสริฟอาหารเช้า แต่เป็น A la carte ไม่ใช่ buffet เหมือนตอนเช้า เมนูมีให้เลือกเยอะมาก สำหรับคนที่พูดภาษาจีนไม่ได้ ก็สามารถใช้วิธีดูจากรูปถ่ายในเมนูได้
อาหารที่เราสั่งมา ส่วนใหญ่รสชาติดี ยกเว้น potato cheese ball ที่รสออกประหลาดเล็กน้อย ด้านล่างเป็นเมนูที่เราคิดว่าน่าจะออกรสเค็มๆ เพราะเปลือกด้านนอกทำจากมันฝรั่งหั่นฝอยแล้วไปทอดให้กรอบ แต่ไส้ด้านใน กลายเป็นว่าเค้าเอาชีสสดไปคลุกกับซอสรสหวานๆ แล้วค่อยมาคลุกกับมันฝรั่ง ทำให้รสมันแปลกๆ เราเลยแกะแต่เปลือกด้านนอกทานเหลือไว้แต่ไส้ด้านใน
เมนูด้านล่าง ซุปกระดูกหมูอ่อนตุ๋นกับ cordyceps ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง น้ำซุปรสกลมกล่อม อร่อยมากๆ กระดูกหมูก็เปื่อยนุ่ม ให้มาเยอะมาก เราติดใจน้ำซุปเมนูนี้ถึงกับต้องกลับมาทานอีกครั้งในวันถัดมา
==================================
Hotel Name: Paradise Hotel
Location: Shangri-La (Zhongdian), China
==================================
Lobby โรงแรมนี้ตกแต่งได้น่าสนใจ ที่โรงแรมมีสระว่ายน้ำ indoor ด้วย แต่ตอนที่ไปก็ไม่เห็นมีใครใช้บริการซักเท่าไหร่ น่าจะเพราะอากาศที่นี่หนาวเป็นส่วนใหญ่
สำหรับคนที่มาเที่ยวที่ Shangri-La บางคนอาจต้องพก oxygen กระป๋องติดตัวเนื่องจากที่นี่เป็นเมืองที่อยู่บนที่สูง ทำให้เราเหนื่อยได้ง่ายกว่าปกติ เพราะฉะนั้นข้อแนะนำก็คือ ให้ทำอะไรช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน
อาหารเช้าที่โรงแรมนี้มีให้เลือกเยอะมากๆ มีทั้งอาหารจีน อาหารท้องถิ่นและอาหารฝรั่งให้เลือก ส่วนอาหารเย็นก็เสริฟที่ห้องอาหารเดียวกันกับที่เสริฟอาหารเช้า แต่เป็น A la carte ไม่ใช่ buffet เหมือนตอนเช้า เมนูมีให้เลือกเยอะมาก สำหรับคนที่พูดภาษาจีนไม่ได้ ก็สามารถใช้วิธีดูจากรูปถ่ายในเมนูได้
อาหารที่เราสั่งมา ส่วนใหญ่รสชาติดี ยกเว้น potato cheese ball ที่รสออกประหลาดเล็กน้อย ด้านล่างเป็นเมนูที่เราคิดว่าน่าจะออกรสเค็มๆ เพราะเปลือกด้านนอกทำจากมันฝรั่งหั่นฝอยแล้วไปทอดให้กรอบ แต่ไส้ด้านใน กลายเป็นว่าเค้าเอาชีสสดไปคลุกกับซอสรสหวานๆ แล้วค่อยมาคลุกกับมันฝรั่ง ทำให้รสมันแปลกๆ เราเลยแกะแต่เปลือกด้านนอกทานเหลือไว้แต่ไส้ด้านใน
เมนูด้านล่าง ซุปกระดูกหมูอ่อนตุ๋นกับ cordyceps ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง น้ำซุปรสกลมกล่อม อร่อยมากๆ กระดูกหมูก็เปื่อยนุ่ม ให้มาเยอะมาก เราติดใจน้ำซุปเมนูนี้ถึงกับต้องกลับมาทานอีกครั้งในวันถัดมา
ถัดมาเป็นเนื้อ yak ตุ๋น เนื้อนุ่มมาก ไม่มีกลิ่นสาบ ทำออกมาได้ดี แต่ให้มาเยอะเกิน ทานไม่หมด
สำหรับเครื่องดื่มด้านล่างเป็นเครื่องดื่มท้องถิ่น ที่เรียกว่า Butter Tea สำหรับคนที่มาที่นี่ครั้งแรก อาจจะอยากลองทานดู order นึงให้มาเหยือกใหญ่มากๆ เราลองทานไปนิดนึงแล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ รสออกเค็มๆ
สำหรับคนที่ธาตุอ่อน การเลือกทานอาหารในโรงแรมอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าที่จะไปลองทานอาหารท้องถิ่นตามร้านที่อยู่ข้างถนน เพราะเราเองก็เกือบแย่ไปเลย หลังจากที่ไปทานอาหารทิเบตที่ร้านข้างทางตอนมื้อกลางวัน
==================================
Hotel Name: Paradise Hotel
Location: Shangri-La (Zhongdian), China
==================================
ครัวกรรณิการ์ หัวหิน (Kannikar's Kitchen)
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่เราไปทานมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสเขียนถึง จำได้ว่าสมัยก่อนที่เคยไปทาน ยังไม่มีเมนูหน้าตาสวยงามแบบนี้ ตอนนั้นร้านยังไม่เป็นที่รู้จักมาก แต่ปัจจุบันเป็นร้านยอดฮิตร้านหนึ่งในหัวหิน ถ้าไปช่วงก่อนเที่ยงวันหยุดแทบจะหาโต๊ะนั่งไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากยืนรอโต๊ะ ก็อาจจะเลือกไปช่วงบ่ายแทน สำหรับคนที่ไปเที่ยวทะเล ทานอาหารทะเลหลายๆ มื้อก็อาจจะเบื่อ ไปทานพวกไก่ทอด ลาบ ผัดกระเพราะบ้างก็ดีเหมือนกัน
บริเวณร้านมีโต๊ะมากขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะ ช่วงที่เราไปค่อนข้างบ่ายแล้ว ลูกค้าจึงไม่ค่อยแน่นร้าน อาหารที่ร้านนี้ทำจากไก่เป็นหลัก เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ทานไก่ ก็คงต้องไปทานที่ร้านอื่น
สมัยก่อน อาหารที่ร้านนี้มีเมนูไม่มากแต่ปัจจุบันมีเมนูให้เลือกมากขึ้น ลูกค้าที่มาทานส่วนใหญ่ก็จะสั่งไก่ทอด โดยเราสามารถเลือกว่าจะทานส่วนไหนก็ได้ วันนี้เราสั่งอกไก่ไป รู้สึกว่าเนื้อไก่ค่อนข้างแห้งไปนิด อาจเพราะทอดไว้ซักพักแล้ว เลยค่อนข้างแข็งไป เนื้อสะโพกน่าจะทานได้ง่ายกว่า เราอยากให้ที่ร้านเค้าทอดไก่ใหม่ๆ จะได้ทานตอนที่ร้อนๆ อยู่ จานที่มาเสริฟทีโต๊ะเราค่อนข้างเย็น ความอร่อยเลยลดลงไปมาก ส่วนพวกลาบหมู ถ้าไม่ทานเผ็ดอาจจะต้องแจ้งที่ร้าน เพราะรสค่อนข้างเผ็ด แต่รสชาติดี
เมนูด้านล่าง ขนมจีนน้ำยาไก่ ทำออกมาได้รสเข้มข้น รสกลมกล่อม ทานคู่กับขนมจีนและผักที่ให้มาจานโต ถ้ามีไข่ต้มยางมะตูมด้วย น่าจะทำให้ขนมจีนจานนี้อร่อยยิ่งขึ้น
====================================
Restaurant Name: Kannikar's Kitchen
Location: Near Railway, Hua Hin
Price (We Paid): 150 THB/Person
บริเวณร้านมีโต๊ะมากขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะ ช่วงที่เราไปค่อนข้างบ่ายแล้ว ลูกค้าจึงไม่ค่อยแน่นร้าน อาหารที่ร้านนี้ทำจากไก่เป็นหลัก เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ทานไก่ ก็คงต้องไปทานที่ร้านอื่น
สมัยก่อน อาหารที่ร้านนี้มีเมนูไม่มากแต่ปัจจุบันมีเมนูให้เลือกมากขึ้น ลูกค้าที่มาทานส่วนใหญ่ก็จะสั่งไก่ทอด โดยเราสามารถเลือกว่าจะทานส่วนไหนก็ได้ วันนี้เราสั่งอกไก่ไป รู้สึกว่าเนื้อไก่ค่อนข้างแห้งไปนิด อาจเพราะทอดไว้ซักพักแล้ว เลยค่อนข้างแข็งไป เนื้อสะโพกน่าจะทานได้ง่ายกว่า เราอยากให้ที่ร้านเค้าทอดไก่ใหม่ๆ จะได้ทานตอนที่ร้อนๆ อยู่ จานที่มาเสริฟทีโต๊ะเราค่อนข้างเย็น ความอร่อยเลยลดลงไปมาก ส่วนพวกลาบหมู ถ้าไม่ทานเผ็ดอาจจะต้องแจ้งที่ร้าน เพราะรสค่อนข้างเผ็ด แต่รสชาติดี
จานด้านล่างเป็นเมนูที่น้องชายชอบมาก ปีกไก่ยัดไส้ รสคล้ายๆ กับปีกไกยัดไส้ที่ร้านครัวตุ่ม ไส้ด้านในเยอะดี สมัยก่อนเราทานคนละ 1 ปีก แต่เดี๋ยวนี้ต้องแบ่งๆ กัน เพราะยังมีอาหารอย่างอื่นให้สั่งอีกหลายรายการ
เมนูด้านล่างเป็นเมนูที่เราชอบมากที่สุดของวันนี้ ไก่สับผัดกระเพราะ ผัดออกมาได้แบบแห้งๆ ไม่แฉะ และทำออกมาได้รสกำลังดีเลย น่าเสียดายที่ร้านนี้เค้าไม่ขายไข่เจียว แต่สามารถสั่งเป็นไข่ดาวแทนได้
เมนูด้านล่าง ขนมจีนน้ำยาไก่ ทำออกมาได้รสเข้มข้น รสกลมกล่อม ทานคู่กับขนมจีนและผักที่ให้มาจานโต ถ้ามีไข่ต้มยางมะตูมด้วย น่าจะทำให้ขนมจีนจานนี้อร่อยยิ่งขึ้น
====================================
Restaurant Name: Kannikar's Kitchen
Location: Near Railway, Hua Hin
Price (We Paid): 150 THB/Person
====================================
Chill out at Two Cats Cafe in Lijiang Old Town
=====================================
Restaurant Name: Two Cats Cafe
Location: Old Town of Lijiang, China
=====================================
Afternoon snack at somewhere else cafe (Shangri-La)
เราไปแวะทานขนมที่ร้านนี้หลังจากเดินเล่นในแถบ old town ซักพัก แรกสุดตั้งใจจะไปอีกร้าน แต่ร้านปิดวันนั้น (The Compass) แต่ร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่ดูน่าสนใจเช่นกัน สำหรับคนที่จะไปเที่ยวที่นี่แต่ท้องไม่ค่อยแข็งแรง การทานอาหาร local ตามร้านที่ไม่รู้จักค่อนข้างเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษอย่างมาก เพราะตัวเราเองก็ไปทานอาหาร local ที่น่าจะไม่สะอาดเข้า ทำให้อาหารเป็นพิษแบบที่เกือบแย่ไปเหมือนกัน ยังโชคดีที่เกิดอาการวันที่จะกลับไปคุณหมิงแล้ว ไม่อย่างงั้นคงเที่ยวต่อไม่สนุกแน่ๆ เลย
Old town ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนักเหมือนกับที่ไป Lijiang รวมทั้งร้านค้ามีสินค้าที่น่าสนใจกว่ามาก โดยเฉพาะเครื่องประดับในแถบนี้ ที่นี่มีร้านอยู่ร้านนึงที่มีชื่อเสียงในการวาดรูป ภาพวาดแต่ละชิ้นมีราคาสูง เพราะต้องใช้เวลาและความละเอียดในการลงสี
สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวในสถานที่ที่ยังมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวไม่เยอะแต่การเดินทางไม่ลำบาก Shangri-la ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะเดินทางมาถึงได้ไม่ยาก มีสนามบินที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง อีกอย่างใช้เวลาเพียงไม่นานในการบินจากคุณหมิงมาที่ shangri-la รวมทั้งมีโรงแรม 5 ดาวตั้งอยู่ด้วย
สำหรับร้าน Somewhere else cafe อยู่ไม่ไกลจากบริเวณจตุรัสกลางเมือง ตัวร้านต้องขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 เจ้าของร้านเป็นชาว Dutch ทำอาหารฝรั่งได้รสชาติอร่อย จริงๆ แล้วเราสั่งแค่ cookies และ quiche มาทาน แต่ก็ติดใจในรสชาติทั้งคู่
ร้านนี้มี wifi ด้วย แถมตกแต่งร้านได้น่านั่ง เสียอย่างเดียวไม่มีห้องน้ำให้เข้า
Quiche ด้านล่าง ใช้เวลานานในการทำแต่ก็คุ้มค่ากับการรอ เพราะอร่อยมากๆ แป้งกรอบตรงผิวด้านนอก แถมรสชาติกำลังดีเลย รวมทั้งมีขนมปังกับสลัดเสริฟมาคู่กันด้วย
เครื่องดื่มด้านล่างคือ Iced chocolate แสนอร่อย เข้มข้นมากๆ ถ้วยนี้น่าจะ calories หลายอยู่
ยังเสียดายที่เราป่วยจากอาหารเป็นพิษจากอีกร้านในวันรุ่งขึ้น เลยไม่ได้แวะมาทานอาหารเช้าที่นี่กับเพื่อน เพราะเพื่อนเค้าติดใจมากขนาดที่เรียก taxi มาจากโรงแรมมาทานอาหารเช้าที่นี่แทนที่จะทานอาหารเช้าฟรีที่โรงแรม
====================================
Subscribe to:
Posts (Atom)